เช้านี้ที่หมอชิต - ศาลแขวงปทุมวัน สั่งจำคุก 4 เดือน "พิธา-ธนาธร" และแกนนำอดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่ปราศรัยในการจัดแฟลชม็อบไม่ถอยไม่ทน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2562 แต่ให้รอลงอาญา 2 ปี
จำคุก พิธา-ธนาธร คดีแฟลชม็อบปี 62 รอลงอาญา 2 ปี
การชุมนุมหรือแฟลชม็อบไม่ถอยไม่ทน จัดขึ้นที่บริเวณสกายวอล์ก หน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ ภายหลังคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีมติเสียงข้างมากยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยมีคำสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ จากกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ให้พรรคกู้ยืมเงิน การชุมนุมดังกล่าวมีผู้เข้าร่วมชุมนุมประมาณ 1,000 คน ใช้เวลาชุมนุมประมาณ 1 ชั่วโมง
ต่อมา อัยการคดี ศาลแขวง 6 (ปทุมวัน) ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า, นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า, นางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกคณะก้าวหน้า และพวกอีก 4 คน ในความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ และ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณา โดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ
เมื่อวานนี้ ศาลแขวงดุสิต ได้มีคำพิพากษาออกมาให้จำคุกจำเลยทั้ง 8 คน คนละ 4 เดือน ปรับ 10,000 บาท แต่เมื่อพิเคราะห์ประวัติจำเลยไม่เคยต้องโทษจำคุก และการชุมนุมเป็นการแสดงออกทางการเมือง ไม่ใช่อาชญากรรมร้ายแรง เห็นควรให้รอลงอาญาไว้ 2 ปี ส่วนกรณีจำเลยไม่แจ้งการชุมนุม และใช้เครื่องขยายเสียง ลงโทษปรับพินัยคนละ 10,200 บาท รวมปรับ 20,200 บาท
พิธา ยัน 8 จำเลย ยื่นอุทธรณ์คดี
หลังฟังคำตัดสิน นายพิธา ระบุว่า จากการหารือกับจำเลยคนอื่นเห็นตรงกันว่า จะต้องยื่นอุทธรณ์คดี เพราะมีประเด็นข้อเท็จจริงเรื่องระยะการชุมนุมใกล้เขตพระราชฐาน อาจจะมีความคลาดเคลื่อนเรื่องรัศมี 150 เมตรว่า วัดจากจุดไหน เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานกับคดีอื่น ๆ
ขณะที่ นายปิยบุตร กล่าวว่า คดีนี้มีหลายประเด็นในการยื่นอุทธรณ์ต่อ ยิ่งเมื่อเทียบเคียงคดีปิดสนามบิน ซึ่งมีผลกระทบจำนวนมาก และเป็นความผิดชัดเจน แต่ศาลพิจารณาเพียงสั่งปรับคนละ 20,000 บาท ส่วนคดีนี้เป็นการชุมนุมใช้ระยะเวลาไม่นาน กลับถูกสั่งจำคุกถึง 4 เดือน มีค่าปรับรวม 20,200 บาท
