หมอเจ้าของเพจดัง เตือนอะดีโนไวรัสระบาด วันเดียวตรวจ 6 เคส พบเชื้อทุกคน

หมอเจ้าของเพจดัง เตือนอะดีโนไวรัสระบาด วันเดียวตรวจ 6 เคส พบเชื้อทุกคน

View icon 8.4K
วันที่ 11 ก.พ. 2567 | 10.03 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
หมอเจ้าของเพจดัง เตือนอะดีโนไวรัส ช่วงนี้ระบาดหนัก วันเดียวตรวจ 6 เคส พบเชื้อทุกคน ส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุน้อยกว่า 5 ขวบ อาการหลากหลาย หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ หายใจครืดคราดหอบเหนื่อย บางคนตาแดง บางคนถ่ายเหลว ลำไส้อักเสบ

วันนี้ (11 ก.พ.67) นพ.ทรงเกียรติ อุดมพรวัฒนะ กุมารแพทย์โรคติดเชื้อ โรงพยาบาลพุทธชินราช เจ้าของเพจ Infectious ง่ายนิดเดียว เปิดเผยถึง Adenovirus (อะดีโนไวรัส) ซึ่งช่วงนี้ระบาดหนัก วานนี้ตรวจไป 6 เคส ผลพบเชื้อทุกคน เด็กส่วนใหญ่อายุน้อยกว่า 5 ขวบ มีอาการทางเดินหายใจอักเสบ ไข้ ไอ เสมหะ บางคนมีหลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ นอนกรน หายใจครืดคราดหอบเหนื่อย บางคน ตาแดง และบางคนถ่ายเหลว ลำไส้อักเสบ

นพ.ทรงเกียรติ เปิดเผยด้วยว่า การวินิจฉัยแยกโรคที่คล้ายกัน ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ เชื้อหวัด rhinovirus โควิด อาร์เอสวี (RSV) โคโรนาไวรัสตัวอื่นๆ HKU 1 NL63 229E OC43 อาจพบติดเชื้อร่วมได้ ทั้งเชื้อไวรัสด้วยกันเอง หรือเชื้อแบคทีเรีย การตรวจ ไม่ได้มีทุกโรงพยาบาล มีชุดตรวจแบบไว คัดกรอง หรือหาสารพันธุกรรม ผู้ป่วยติดเชื้ออะดีโนไวรัส ไม่มียารักษา กรณีอาการไม่รุนแรง จะรักษาตามอาการ

ส่วนในผู้ป่วยที่อาการรุนแรง เช่น กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ภูมิคุ้มกันต่ำ มียาต้านไวรัส Cidofovir, Ribavarin, Foscanet และอื่นๆ อาจพิจารณา IVIG โรคติดเชื้ออะดีโนไวรัส ยังไม่มีวัคซีนเพื่อป้องกัน การป้องกันสามารถทำได้เหมือนการป้องกับโรคทางเดินหายใจอื่น เช่น โควิด หรือไข้หวัดใหญ่ เนื่องจาก อะดีโนไวรัสติดเชื้อทางการหายใจ ละอองฝอย (droplet) การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ รักษาระยะห่าง ช่วยป้องกันได้

สำหรับอะดีโนไวรัส (Adenovirus) เป็นไวรัสที่ส่งผลให้เกิดโรคได้ในหลายระบบของร่างกาย มีอาการได้ตั้งแต่เป็นไข้หวัด คออักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ ท้องเสีย หรือตาแดง เด็กเล็ก อายุน้อยกว่า 3 เดือน ที่ได้รับไวรัสอะดีโนอาจมีอาการรุนแรงได้ ผู้ปกครองต้องหมั่นสังเกตอาการ หากเด็กมีอาการซึม ไม่ดื่มน้ำหรือดื่มนม ควรพาไปพบแพทย์ ไวรัสนี้มีชีวิตอยู่ได้นานถึง 30 วัน ตามพื้นผิวสิ่งแวดล้อม จึงสามารถระบาดได้โดยไม่สัมพันธ์กับฤดูกาล

อะดีโนไวรัส (Adenovirus)  พบอัตราการป่วยในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ โดยมีอาการรุนแรงในเด็กที่มีภาวะบกพร่องทางภูมิคุ้มกัน มีโรคประจำตัวในระบบทางเดินหายใจ หรือระบบหัวใจที่ผิดปกติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง