ประธานาธิบดี อิบราฮิม ไรซี ของอิหร่าน ได้กล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เนื่องในวาระครบรอบ 45 ปีแห่งชัยชนะของการปฏิวัติอิสลามในปีคริสตศักราช 1979 โดยกล่าวโจมตีชาติตะวันตก สหรัฐฯ และอิสราเอล ต่อการกระทำในฉนวนกาซา ว่าเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ อาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมอื่น ๆ อีกมากมายต่อปาเลสไตน์ พร้อมกล่าวว่า อิสราเอลต้องหยุดปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซา และเรียกร้องให้ประชาคมโลกตัดความสัมพันธ์กับอิสราเอล และขับอิสราเอลออกจากสหประชาชาติด้วย
ขณะที่ ชาวอิหร่านหลายพันคน รวมถึงเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ออกมาเดินขบวนตามท้องถนนในเมืองต่างๆ จำนวน 1,400 เมือง และหมู่บ้านอีก 35,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเฉลิมฉลองในโอกาสนี้ โดยในกรุงเตหะราน ประชาชนได้เดินขบวนจากสถานที่ 13 แห่ง ไปยังจัตุรัสออซอดี (Azadi) ซึ่งเป็นสถานที่กล่าวสุนทรพจน์ของผู้นำอิหร่าน พร้อมด้วยป้ายข้อความที่แสดงถึงการต่อต้านสหรัฐฯ และอิสราเอล และยังมีการแสดงขีปนาวุธจำนวนหนึ่ง รวมทั้ง จรวดซีมอร์กห์ (Simorgh) ที่ใช้ส่งดาวเทียมขึ้นสู่อวกาศ
ทั้งนี้ การปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน ปี 2522 เป็นการโค่นล้มระบอบการปกครองของพระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และนำประเทศไปอยู่ภายใต้การนำของอยาตุลลอฮ์ รูฮุลลอฮ์ โคมัยนี ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ผู้ล่วงลับไปแล้ว ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การฝ่ายซ้ายและกลุ่มอิสลามหลายแห่ง รวมทั้งนักศึกษาอิหร่าน
