เช้านี้ที่หมอชิต - มาต่อกันหนึ่งวาระแห่งชาติที่สร้างความทุกข์อกทุกข์ใจให้กับหลายครอบครัว และระบาดไปทุกหย่อมหญ้าในเวลานี้ นั่นก็คือเรื่องยาเสพติด โดยเฉพาะยาบ้า เพิ่งมีดรามาหลังรัฐบาลผ่านกฎกระทรวง ครอบครองยาบ้าครอบครอง 5 เม็ด ถือเป็นผู้เสพ ไม่ต้องถูกดำเนินคดี ทำให้มีเสียงวิจารณ์ดังขึ้นทันที จนต้องมีการตั้งโต๊ะชี้แจงกันไปยาว ๆ 1 ชั่วโมง จาก นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า แนวทางดังกล่าวเป็นการดำเนินการหลังมีการประกาศกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษ และวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. 2567 ซึ่งมีประเด็นที่สังคมเข้าใจคลาดเคลื่อน โดยเฉพาะเรื่องที่ว่าการครอบครองยาบ้าน้อยกว่า 5 เม็ด ไม่มีความผิดนั้น ขอขีดเส้นใต้ให้ชัด ไม่ว่าจะครอบครองกี่เม็ดก็ถือว่ามีความผิด ต้องรับโทษ แต่เหตุผลที่มีการออกกฎกระทรวงฉบับนี้ก็เพื่อให้โอกาส คือหากครอบครองยาเสพติดในปริมาณน้อย เช่น ประมาณ 5 เม็ด ให้สันนิษฐานว่าเป็นผู้เสพ ควรให้โอกาสกลับตัวเข้าสู่สังคมได้ ซึ่งจะต้องสมัครใจเข้ารับการบำบัดจนครบหลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ โดยผู้เสพติดจะต้องเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูทางการแพทย์ ต้องได้รับใบรับรองจากผู้อำนวยการสถานบำบัดศูนย์ยาเสพติด ซึ่งเป็นแพทย์ลงนามรับรอง ส่วนผู้ใช้ยาเสพติดแต่ไม่มีอาการ จะต้องเข้ารับการบำบัดฟื้นฟูจากสังคมหรือค่ายบำบัด ถ้าผ่านรับรองครบทุกขั้นตอนที่กำหนดไว้แล้ว จึงจะพ้นจากความผิด ไม่ใช่ไม่มีความผิด แต่สำหรับกรณีผู้ค้ายาเสพติดจะดูจากพฤติการณ์เป็นหลัก ไม่มีการกำหนดปริมาณเม็ด หากทำผิดฐานผู้ค้ามีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-1,500,000 บาท
ขณะที่ นายเศรษฐา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ถูกสื่อตั้งคำถามถึงดรามา 5 เม็ด เช่นกันว่า จำนวนมากเกินไปหรือไม่ในการตีความว่าเป็นผู้เสพ เพราะหลายคนบอกว่าเม็ดเดียวก็พอ
ซึ่งท่านนายกฯ ได้ตอบกลับมาว่า ลองดูก่อนแล้วกัน เรื่องคนเสพจะ 5 เม็ด 3 เม็ด หรือ 1 เม็ด มันก็ไม่ควรจะมีอยู่แล้ว ไปบำบัดแก้ไขกันไป เรื่องนี้เป็นวาระแห่งชาติอยู่แล้ว เราไม่ได้ทำแค่เรื่องประกาศว่า 5 เม็ด ถ้าลองดูแล้วเห็นว่าไม่เหมาะสม จะเปลี่ยนแปลงใหม่ก็ได้ ขอย้ำว่ามีการแก้ไขปรับปรุงตลอดเวลา
