อดีตข้าราชการครู เดือดร้อน จ่ายหนี้เท่าไหร่ยอดก็ไม่ลด ไปตรวจสอบพบ ถูกเอาชื่อไปกู้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูกว่า 6 สัญญา โดยไม่เคยรู้มาก่อน
สหกรณ์ออมทรัพย์ครู - ที่จังหวัดยโสธร นางสาวตฤษนา อายุ 66 ปี อดีตข้าราชการครู เข้าร้องสื่อมวลชน ขอความเป็นธรรมหลังจากมีคนแอบอ้างนำชื่อและเอกสารหลักฐานต่าง ๆไปทำสัญญากู้เงินกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูยโสธร ถึง 6 สัญญาในระยะเวลาเพียง 2 ปี ระหว่างช่วงผี 2555 - 2557 จนทำให้ตนเองเป็นหนี้จำนวนกว่า 4.5 ล้านบาท
นางสาวตฤษณา ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ทำสัญญา และ ไม่เคยทราบมาก่อนว่า เป็นหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูที่มียอดหนี้สูงขนาดนี้ จนกระทั่งเมื่อปี 2561 ทางสหกรณ์ออมทรัพย์ครูยโสธรได้มีหนังสือเรียกให้ ไปปรับโครงสร้างหนี้ก็สงสัยว่าทำไมยอดหนี้สูงถึง 4 ล้าน แต่ไม่ได้ตรวจสอบ เพราะตนเองเคยกู้เงิน จากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูยโสธรเมื่อปี 2555 จำนวน 2.3 ล้านบาท และมีการจ่ายหนี้ทุกเดือนเดือนละกว่า 1 หมื่นบาท หักจากเงินเดือน แต่ปัจจุบันยอดหนี้ยังคงเหลือ 4.5 ล้านบาทเท่าเดิม
นางสาวตฤษนา บอกอีกว่า ปี 2557 ได้ขอลาออกจากข้าราชการครู เนื่องจากมีปัญหาด้านการเงินและมีหนี้สินจำนวนมาก แต่หลังจากนั้นก็ยังมีการหักจ่ายหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูเรื่อยมา จนกระทั่งผ่านไปหลายปียอดหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูของตนมียอดเพิ่มสูงขึ้นไปอีก ทั้ง ๆ จ่ายหนี้คืนทุกเดือน
จนเมื่อประมาณปลายปี 2566 ที่ผ่านมามีผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งได้ชวนตนไปขอตรวจสอบบัญชีการกู้เงินกับทางสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัดยโสธร เพราะมีปัญหาเกี่ยวกับหนี้สหกรณ์ฯเหมือนกับตน ปรากฎว่า ชื่อของตนเอง มีการทำสัญญา กู้เงินกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูยโสธรถึง 6 สัญญา โดยที่ไม่ทราบมาก่อน
หลังจากนั้นตนจึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ อีกฉบับร้องเรียนไปยังกรมส่งเสริมสหกรณ์ และล่าสุดได้ยื่นร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดยโสธร ซึ่งศูนย์ดำรงธรรมฯ ได้สั่งการให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดยโสธรได้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและได้เรียกตนเองเข้าไปให้ปากคำกับนิติกรของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดยโสธรแล้วและรับปากว่าจะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและ จะแจ้งผลการตรวจสอบให้ทราบต่อไป ตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงได้เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนอีกครั้ง
