สู้ภาวะเศรษฐกิจ ชาวบ้านนำครกหินอ่างศิลาจำนำ

เช้านี้ที่หมอชิต - ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาทำให้ผู้มีรายได้น้อยต้องดิ้นรนกันสายตัวแทบขาด บางคนต้องทำอาชีพเสริม บางคนหอบทรัพย์สินเข้าโรงจำนำ เช่นที่ ชลบุรี ชาวบ้านนำครกหินอ่างศิลาไปจำนำไว้และไม่ได้มาไถ่คืน เผยตอนนี้ครกหินอ่างศิลาจัดว่าเป็นแรร์ไอเท็ม ของหายาก และมีราคา

สู้ภาวะเศรษฐกิจ ชาวบ้านนำครกหินอ่างศิลาจำนำ
นี่เป็นครกหินอ่างศิลา ที่ชาวบ้านนำมาจำนำไว้ที่สถานธนานุบาล หรือ โรงรับจำนำ ของเทศบาลเมืองอ่างศิลา ตำบลอ่างศิลา อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ซึ่งตอนนี้มีครกขาดจำนำไปแล้ว 1 ใบ เหลืออีก 3 ใบ ที่รอเจ้าของมาต่อดอกเบี้ย ซึ่งก็ขาดต่อมาแล้วถึง 3 เดือน โดยครกหินธรรมดารับจำนำในราคา 200 บาท ส่วนครกหินอ่างศิลาแท้ 700 บาท

นายวินัย พ้นภัยพาล นายกเทศมนตรีเมืองอ่างศิลา เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบครกหินทั้ง 4 ใบ เป็นหินเก่าแก่ ตอนนี้มีราคาแพงและหายาก น่าจะเป็นสมบัติตกทอดกันมาตั้งแต่สมัยปู่ทวด ตอนนี้ราคาตามตลาดของเก่าอยู่ที่ 5,000-7,000 บาท แต่เจ้าของมาจำนำไว้เพียงแค่ 700 บาท และ 200 บาท อยากฝากว่าให้มาต่อใบจำนำ เพราะตอนนี้เทศบาลมีโพรโมชัน ของไม่เกิน 5,000 บาท ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชน

สาวออฟฟิศเงินเดือนไม่พอใช้ เช่าที่ตลาดนัดขายอาหาร จ.สุรินทร์
ส่วนที่จังหวัดสุรินทร์ นางสาว วิสสุตา ใจกล้า อายุ 30 ปี สาวพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง เธอบอกว่า เงินเดือนไม่พอใช้ เลยตัดสินใจมาเช่าที่ตลาดเมืองใหม่ by IQ ในตัวเมืองสุรินทร์ เปิดร้านขายส้มตำกับไข่เจียวทรงเครื่อง ปรากฏว่าขายมาได้ปีกว่าลูกค้าเริ่มติดใจในรสชาติ

เธอ บอกว่า ใช้เวลาว่างช่วงเย็นหลังเลิกงาน ขายส้มตำกับข้าวไข่เจียวทรงเครื่อง ขายไป ขายมา รสชาติติดปาก คนเริ่มรู้จักเยอะ ทำให้ขายดี เมนูยอดฮิตของทางร้านตอนนี้มีส้มตำทะเลรวม ตำหอยนา ตำข้าวโพด ตำปูปลาร้า ตำป่า เป็นต้นลูกค้าที่มาใช้บริการ บอกว่า อร่อยคุ้มและราคาไม่แพง

นางสาว วิสสุตา บอกว่า อาชีพเสริมนี้ทำให้เธอมีรายได้เพิ่มขึ้นวันละ 1,000-2,000 บาท แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ทุกวัน เมื่อนำมารวมกับรายได้จากงานบริษัทแล้ว ก็พอช่วยเหลือครอบครัวได้ ใครอยากสนับสนุนคนสู้ชีวิตก็ไปอุดหนุนกันได้ที่ ร้านส้มตำ by แคมป์ แซ่บๆ นำกัน ตลาดเมืองใหม่ by IQ จังหวัดสุรินทร์

พบแม่ตกงานต้องเลี้ยง 9 ชีวิต อดมื้อกินมื้อ จ.ตรัง
ที่จังหวัดตรัง ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านหลังหนึ่งในตำบลในควน อำเภอย่านตาขาว พบ นางสาวพรรณทิพย์ ช่วยเรือง อายุ 30 ปี แม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องดูแลลูก 5 คน หญิง 4 คน ชาย 1 คน กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.2-ม.3 อายุ 8-15 ปี โดยมีน้องสาวอีก 2 คน ซึ่งเป็นเด็กพิเศษ 1 คน และหลานชายอีก 1 คน มาขออาศัยอยู่ด้วย รวมทั้งหมด 9 ชีวิต

นางสาวพรรณทิพย์ บอกว่า เลิกรากับสามี มาเกือบ 3 ปี แล้ว แต่เธอไม่ทิ้งลูก ไม่ทิ้งหลาน หอบกันมาเช่าบ้านหลังเล็ก ๆ ราคาเดือนละ 1,000 บาท แต่เนื่องจากอยู่กันหลายคนคน บ้านจึงดูคับแคบลงไปถนัดตา จนตอนนี้แบกรับภาระไม่ไหว ตัดสินใจให้ลูกสาวคนโตที่เรียนอยู่ชั้น ม.2 กำลังจะขึ้น ม.3 ลาออกจากโรงเรียนกลางคัน เพราะส่งเสียไม่ไหว เนื่องจากทำงานรับจ้างรายวัน รายได้ 100-200 บาทเท่านั้น และตอนนี้ตกงานมานาน 5 เดือนแล้ว ทำให้ต้องอดมื้อกินมื้อ

ส่วนสภาพในบ้านเช่าก็พบว่ามีไฟฟ้าส่องสว่างอยู่เพียงดวงเดียว ที่เหลือหลอดไฟขาด ไม่มีเงินซ่อมแซม ทำให้ต้องอยู่กันยากลำบาก

ผู้ที่มีกำลังอยากช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน สามารถติดต่อได้ที่ ครูน้อย โรงเรียนวัดควนวิไล อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ของ นางสาวพรรณทิพย์ ช่วยเรือง หมายเลข 061-509-2301

เธอบอกว่าอยากได้งานทำ ไม่ขอรับบริจาค แต่อยากให้ช่วยลูกได้รับความช่วยเหลือให้ได้เรียนหนังสือต่อไป