โซเชียลแห่ชื่นชม นักศึกษาหนุ่ม ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นำขยะไร้ค่า มาสร้างสรรค์เป็นงานศิลปะที่มีคุณค่า สะท้อนปัญหาสังคมปัจจุบัน
วันนี้ ( 17 ก.พ.67) สังคมโซเชียล แห่ชื่นชมผลงาน ของนักศึกษาหนุ่ม ชั้นปี ที่ 3 มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ที่ได้โพสต์ของงานศิลปะของตัวเอง ลงในเฟซบุ๊กชื่อ Thanin Chaibun ระบุข้อความว่า เรื่องของเมื่อคืน พร้อมโพสต์ภาพถ่ายงานศิลปะ ซึ่งเป็นภาพที่โดนใจคนที่พบเห็น เพราะเป็นผลงานที่ดูแปลกตา ไม่เหมือนกับงานศิลปะที่เคยพบเห็นทั่วไป
ทีมข่าวออนไลน์ 7HD โทรศัพท์สอบถาม นายธานินท์ ใจบุญ หรือน้องดรีม อายุ 21 ปี เป็นนักศึกษาชั้นปี ที่ 3 เอกจิตรกรรม สาขาทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์และวัฒนธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เล่าว่า หลังจากได้รับมอบหมายจากอาจารย์ ให้นำเสนอผลงานเกี่ยวกับหัวข้อ “สังคมเมือง” จึงลงพื้นที่เก็บข้อมูลถ่ายภาพ ตามตลาด ชุมชนต่าง ๆ ซึ่งตอนแรกสนใจเกี่ยวกับปัญหาความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในสังคม กระทั่งบังเอิญเดินผ่านคนเร่ร่อน ทำให้เกิดความรู้สึก เห็นใจ จึงเปลี่ยนหัวข้อ นำเรื่องราวที่ตนเองไปเห็นกับตา นำมาสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ ออกมาเป็นผลงานศิลปะ สะท้อนให้คนในสังคม ได้เข้าใจว่ากลุ่มคนเหล่านี้ ไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อน ไม่ได้มีพิษภัย อยากให้สังคมให้โอกาส เกิดความเข้าใจ
หลังจากนั้นได้วางเนื้อเรื่อง จึงเลือกใช้รูปเด็ก เป็นตัวแทนในการสื่ออารมณ์ เพราะเด็กสามารถสื่อได้หลากหลายอารมณ์ ทั้งความน่าสงสาร ความน่าเอ็นดู จึงเลือกเน้นให้ความสำคัญที่ใบหน้าเด็ก เพราะอยากให้ดูน่าเอ็นดู เศร้าหมอง โดดเดี่ยว เมื่อคนทั่วไปหรือผู้ใหญ่มอง จะได้สื่อถึงความรู้สึกน่าสงสาร กระทบกระเทือนจิตใจคนได้เร็วที่สุด
ส่วนวัสดุที่ใช้ จะนำขยะที่ดูไร้ค่า ถูกทิ้งตามข้างทาง นำมาทำให้เกิดคุณค่า และต้องเป็นสิ่งของที่มีความเชื่อมโยงกับคนเร่ร่อน เช่น กระดาษลัง ที่เห็นนำมาไว้เป็นที่รองนั่ง รองนอน ,ขวดน้ำ ที่เห็นภาพคนเร่ร่อนเดินเก็บขาย หรือนำไปแลกอาหาร ประทังชีวิต เมื่อนำมาตัดเป็นชิ้นส่วนตามที่ต้องการ ติดทับกันไปเรื่อย ๆ จัดมุม และองศาของหลอดไฟ ทำให้เกิดภาพเงาบนผนัง ซึ่งภาพเงาที่ปรากฏอยู่บนผนัง คือภาพของเด็กชายที่กำลังนอนอยู่บนกระดาษลัง มีลักษณะท่าทางการนอนที่ดูแล้ว เกิดความรู้สึกเอ็นดู เกิดความรู้สึกน่าสงสาร ซึ่งภาพนี้ต้องการสื่อความหมายว่า เด็กคืออนาคตของชาติ เด็กคือความสดใส แต่เด็กเหล่านี้ ยังขาดโอกาสจากสังคม
นักศึกษาหนุ่ม ยังบอกอีกว่า งานศิลปะดังกล่าว เรียกว่า ศิลปะสื่อผสม เป็นงานศิลปะที่ใช้วัสดุ หรือสื่อมากกว่า 1 ชิ้น ใน 1 งาน เป็นงานประเภทใหม่ ตนเองไม่ค่อยพบเห็นในประเทศไทย ในระหว่างที่ศึกษาหาข้อมูล ก็ไม่พบข้อมูลของศิลปินไทย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผลงานของศิลปินในต่างประเทศ จึงได้แรงบันดาลใจตนเอง จึงใช้เวลาในการศึกษานานกว่า 7-8 เดือน หลังจากนี้ตั้งใจพัฒนาผลงาน และฝีมือต่อไป เพื่อต่อยอดในการสร้างรายได้
