เช้าข่าว 7 สี - จากกรณีที่แม่ย้ายเข้าแจ้งความกับตำรวจว่าลูกสาวหายไป โดยฝ่ายลูกเขยปฏิเสธมาโดยตลอด แต่ก็ต้องยอมจำนนด้วยหลักฐาน
เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ริมถนนแจ้งวัฒนะ ฝั่งมุ่งหน้าเข้าปากเกร็ด ก่อนถึงซอยแจ้งวัฒนะ 36 ที่บันทึกภาพ นายศิริชัย สามีของน้องนุ่น ได้ลาก น้องนุ่น มาก่อนลงมือทำร้ายร่ายกาย ทั้งเตะ และใช้หินทุบไปที่บริเวณศีรษะ ก่อนที่จะลากตัว น้องนุ่ม จนพ้นมุมกล้องออกไป รวมทั้งยังมีสร้อยข้อมือที่พบอยู่กับศพหญิงที่ถูกนำไปเผา ในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ที่ตรงกับสร้อยข้อมือของ น้องนุ่น จนนำไปสู่การขอศาลออกหมายค้นบ้านของ นายศิริชัย
โดยเมื่อช่วงหัวค่ำที่ผ่านมา ตำรวจได้นำกำลังเข้าตรวจค้นภายในบ้านพักของ นายศิริชัย ในหมู่บ้านดังย่านเมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี พบรถยนต์ของ นายศิริชัย จอดอยู่ในบ้าน และตำรวจได้ควบคุมตัว นายศิริชัย ไปสอบปากคำเพิ่มเติม ในห้องสืบสวนนานกว่า 1 ชั่วโมง นายศิริชัย จึงให้การว่าเป็นคนลงมือทำร้ายร่างกายภรรยา และใช้ก้อนหินทุบที่ศีรษะหลังมีปากเสียงกัน หลังกลับจากงานเลี้ยง จากนั้นได้กลับบ้าน ก่อนใช้อิฐบล็อกตีศีรษะภรรยาจนเสียชีวิต จากนั้นนำร่างภรรยาใส่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ก่อนจะนำร่างของผู้ตายใส่รถยนต์ ขับไปซื้อน้ำมันในปั๊ม 2 แกลลอน และซื้อไฟแช็กจากร้านสะดวกซื้อ ก่อนนำร่างภรรยาไปเผาอำพรางที่บ้าน มอบเหวียง ตำบลหนองโพ อำเภอศรีมหาโพธิ์ โดยมีลูกวัย 2 ขวบ นั่งรถไปด้วย จากนั้นตำรวจจึงนำผู้ต้องหาไปขอโทษแม่ของผู้ตาย
พลตำรวจตรี ปรารถนา แผ่นผา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี เปิดเผยว่า มั่นใจในหลักฐาน และคำให้การของผู้ต้องหาว่าสามารถเอาผิดได้แน่นอน โดยได้แจ้งข้อหาเบื้องต้นไว้ 2 ข้อหา คือ เจตนาฆ่าผู้อื่นจนเสียชีวิต และซ่อนเร้นอำพรางศพ
ขณะที่ ตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบที่พบร่างของ น้องนุ่น ซึ่งหลักฐานในตัวของ น้องนุ่น หลายอย่างยืนยันได้ว่าเป็นศพของ น้องนุ่น และตรงกับคำรับสารภาพของผู้ต้องหา