หนุ่ม 27 ปี ใช้สลิปโอนเงินปลอมตระเวนซื้อของตามร้านค้า เลือกเหยื่อเป็นเจ้าของร้านที่ค่อนข้างมีอายุ หลอกง่าย อ้างทำไปเพราะตกงาน ย่ามใจกลับมาทำซ้ำถูกจับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หางดง จับวัยรุ่นก่อเหตุทำทีไปซื้อของร้านของชำ โดยเลือกร้านที่เจ้าของเป็นผู้สูงอายุ อ้างว่าโอนเงินค่าของให้และฉวยโอกาสขี่รถหลบหนี โดยขระก่อเหตุกล้องวงจรปิดของร้าน ชำแห่งหนึ่งในหมู่บ้านน้ำแพร่ ต.น้ำแพร่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ บันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้
ชายวัยรุ่น จอดรถไปเลือกซื้อของในร้านชำก่อนที่จะทำทีนำโทรศัพท์มือถือไปยืนสแกนจ่ายเงินโดยได้บอกกับลุงและป้าเจ้าของร้านว่าได้โอนเงินจ่ายค่าซื้อของเข้าบัญชีแล้ว แต่ลุงเจ้าของร้านเห็นว่าไม่มีเงินเข้าจึงได้พยายามเรียกให้ชายคนดังกล่าวกลับมา แต่ชายคนดังกล่าวกขี่รถมอเตอร์ไซค์หลบหนีไป เจ้าขแงร้านพยายามขี่ตามแต่ไม่ทัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ต่อมานายสุเทพ วอายุ 50 ปี เจ้าของร้านของชำร้านดังกล่าวได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.หางดง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบพบว่า คนร้าย เข้ามาก่อเหตุที่ร้านนี้แล้วครึ่งหนึ่ง เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 โดยได้ทำทีไปซื้อเหล้า 2 ขวด ราคา 580 บาท และอ้างว่าจะชำระเงินค่าสินค้าด้วยการโอนเงิน และอ้างว่าได้โอนเงินให้แล้ว แต่ปรากฏว่า ไม่มีเงินชำระค่าสินค้าเข้าบัญชีฯ ก่อนที่ขี่รถหลบหนี หลังจากนั้นงย่ามใจกลับมาก่อเหตุในช่วงบ่ายของวัน 19 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
จากการสืบสวนทราบว่าชายคนก่อเหตุคือนายจิ๊บ นามสมมุติ อายุ 27 ปี ชาวบ้าน ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ จึงได้ขอหมายจับ และตามจับกุมตัวนายจิ๊บได้แล้ว
นายจิ๊บ รับสารภาพว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์ร้านดังกล่าวจริง ส่วนทรัพย์สินที่ได้ไปจะเอาไปดื่มกินเอง เงินก็เอาไปใช้จ่าย เพราะตกงาน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์โดยแปลงตัวหรือปลอมตัวเป็นผู้อื่น มอมหน้าหรือทำตัวด้วยประการอื่นเพื่อไม่ให้เห็นหรือจำหน้าได้ และโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป เพื่อให้พ้นการจับกุม”ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.หางดง ดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุได้เลือกร้านที่เจ้าของเป็นผู้สูงอายุ เพื่อง่ายต่อการหลอกลวง จากการตรวจสอบพบว่าผู้ก่อเหตุได้ก่อเหตุลักษณะนี้มาหลายพื้นที่ โดยเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ที่ร้านค้าหน้าโรงพยาบาลลำพูนอีกด้วย จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษ และลักทรัพย์ มาแล้วหลายครั้ง