ผัวเมียร้องขอความเป็นธรรมหญิง 16 แอบพาลูกไปขี่รถจยย. เกิดอุบัติเหตุถูกชนดับไร้คนรับผิดชอบ

ผัวเมียร้องขอความเป็นธรรมหญิง 16 แอบพาลูกไปขี่รถจยย. เกิดอุบัติเหตุถูกชนดับไร้คนรับผิดชอบ

View icon 191
วันที่ 23 ก.พ. 2567 | 12.36 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สองผัวเมียชาว ร้องขอความเป็นธรรมหญิงอายุ 16 แอบพาลูกสาว 4 ขวบไปขี่ จยย.โดยไม่ได้รับอนุญาต เกิดอุบัติเหตุ ลูกสาว 4 ขวบตาย ผ่านไปเกือบครึ่งเดือนไร้คนรับผิดชอบ

(23 ก.พ.67)  นายยอดศักดิ์  อายุ 30 ปี  และ  น.ส.บุษบา  อายุ 44 ปี สองสามีภรรยาชาวอำเภอสตึก  จ.บุรีรัมย์   มีอาชีพเก็บของเก่าขายและรับจ้างทั่วไป ร้องขอความเป็นธรรม  หลังจาก น.ส.เอ  (นามสมมติ)  อายุ 16 ปี  ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันได้แอบพาน้องพราว  อายุ 4 ขวบ ซึ่งเป็นลูกสาวออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 11 ก.พ.67  ที่ผ่านมา โดยไม่ได้รับอนุญาต   

โดย น.ส.เอ  ได้พาลูกสาวนั่งรถจักรยานยนต์ออกไปกับนายเอ็ม  (นามสมมติ)  อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นผู้พิการทางสติปัญญา พอรู้ว่า น.ส.เอ  เป็นคนพาลูกสาวออกไป ก็ได้ไปตามเอาลูกคืน แต่ปรากฎว่า น.ส.เอ ขี่รถจักรยายนต์ไปเกิดอุบัติเหตุ  ข้ามเลนไปชนกับรถกระบะบรรทุกไม้ยูคา  บนถนนสายบ้านร่อนทอง-ละหาร  ต.ร่อนทอง  อ.สตึก ทำให้น้องพราว ลูกสาวอายุ 4 ขวบ ที่นั่งด้านหน้าเสียชีวิต ส่วน น.ส.เอ และ นายเอ็ม ได้รับบาดเจ็บ

ขณะนี้ผ่านมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว  ก็ยังไม่มีใครแสดงความรับผิดชอบอะไร ตำรวจบอกว่าฝั่งรถกระบะมาถูกเลน  ส่วนรถจักรยานยนต์ที่แอบพาลูกออกไปก็ยังเป็นเยาวชนไม่รู้จะเอาผิดได้แค่ไหน และเท่าที่ทราบข้อมูลทั้งรถกระบะ และรถจักรยานยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุ  ไม่มี พ.ร.บ.ทั้งสองคัน  เอาผิดกับใครไม่ได้จึงเกรงว่าลูกสาวของตนเองจะตายฟรี  ขณะที่ครอบครัวก็ฐานะยากจนจึงตั้งสวดอภิธรรมคืนเดียวแล้วเผาเลย  

น.ส.บุษบา  ผู้เป็นแม่  บอกว่า  วันเกิดเหตุตนกับสามีและลูกสาวกำลังช่วยกันคัดขวดพลาสติกเพื่อจะเอาไปขาย ขณะนั้นนายเอ็ม ที่มากับ น.ส.เอ  อายุ 16 ปี  ได้มาขอยาสูบจากสามี สักพักตนเองไม่เห็นลูกสาว จึงคาดว่า น.ส.เอ  น่าจะแอบพาลูกสาวไปด้วยจึงให้สามีรีบตามไป

หลังเกิดอุบัติเหตุ ญาติของ น.ส.เอ  มาช่วยงานศพแค่ 1,000 บาท ส่วนรถกระบะช่วยแค่ 2,000 บาท ล่าสุดได้มีการนัดพูดคุยกันที่บ้านผญบ. โดยฝั่งตนเสนอให้เยียวยา 500,000 บาท แต่ญาติของ น.ส.เอ อายุ 16 ปี ไม่ได้รับปากว่าจะเยียวยาหรือไม่  บอกแค่ว่าขอปรึกษาญาติและนัดคุยกันใหม่วันที่ 28 ก.พ.67 

ด้านนายยอดศักดิ์  ผู้เป็นพ่อ วันนั้นตนก็ไปถึงจุดเกิดเหตุก็เห็นนอนนิ่งแต่ยังไม่ทันสิ้นใจ จึงบอกลูกว่าพ่อมาแล้ว ไม่นานลูกก็เสียชีวิต  เสียใจมากเพราะไม่ได้อนุญาตให้เขาเอาลูกไปก็เหมือนขโมยพาไป แต่พอเกิดอุบัติเหตุลูกตายกลับเอาผิดกับใครไม่ได้  กลัวลูกตายฟรี  จึงได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม

จากการสอบถามตำรวจ สภ.สตึก  ให้ข้อมูลว่า  พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอน  ก็ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุและบันทึกภาพหลักฐานไว้ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอให้ น.ส.เอ  อายุ 16 ปี  ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์อาการดีขึ้น  แล้วจะได้ประสานทีมสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำและแจ้งข้อหากล่าวหาในฐานะคนขับขี่ หากรถ จยย.ไม่มี พ.ร.บ.ก็ต้องฟ้องเอาผิดกับผู้ปกครองด้วย   ส่วนรถกระบะคู่กรณีซึ่งมาถูกเลนแต่หากไม่มี พ.ร.บ.ก็จะถูกเปรียบเทียบปรับตามกฎหมายจราจร