สาวสองสุดช้ำไปเสริมหน้าอกที่คลินิก กลับมาพบรอยแผลปริ ต้องล้างแผล เจาะหนองเอง คลินิกเยียวยามา 8,000 บาท
เสริมหน้าอก แผลปริ วันนี้ (27 ก.พ.67) ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นายดีชาย อายุ 29 ปี สาวประเภท 2 อาชีพทำธุรกิจส่วนตัว นำเอกสารหลักฐาน เดินทางเข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยเหลือ หลังตนเองได้เข้าไปผ่าตัดเสริมหน้าอกกับคลินิคชื่อดังแห่งหนึ่งย่านเขตมักกะสัน กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 ที่ตัดสินใจทำเพราะเห็นมีคนเข้าไปรีวิวเป็นจำนวนมาก เมื่อเห็นว่าคลินิกทำหน้าอกสวย จึงตัดสินใจทำหน้าอกกับคลินิกแห่งนี้
โดยตกลงกันว่าจะทำเป็นซิลิโคนเนื้อทราย แต่ต่อมาตนมาทราบภายหลังที่คลินิกปล่อยคลิปออกมาว่าเป็นซิลิโคนเนื้อเรียบ แต่ตนก็ปล่อยผ่านไปเนื่องจากทำการผ่าตัดมาแล้ว นอกจากนี้ตนได้คุยกับทางคลินิกว่าจะต้องใส่ซับพอตบาร์หรือไม่ (คนทำหน้าอกต้องใส่ เพื่อเป็นการล็อคแผล) แต่ทางคลินิกอ้างว่าที่คลินิกมีขาย สามารถมาซื้อที่หน้าร้านได้ แต่เมื่อไปถึงกลับไม่มีให้หลังผ่าตัดเสร็จทางคลินิกแค่นำผ้าพันหน้าอกมาพันรอบตัว แล้วให้ตนกลับมาพักฟื้นตัวที่บ้าน ซึ่งผ้าที่พันที่หน้าอกก็เริ่มรัดแผลจนแผลเริ่มปริมากขึ้นเรื่อยๆ ตนได้โทรศัพท์บอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับทางคลินิกอยู่ตลอด แต่ทางคลินิกก็ให้ตนล้างแผลเอง จนถึงขั้นให้เจาะหนองด้วยออกเองอีกด้วย
จากนั้นแผลที่ผ่าตัดมาก็ไม่ดีขึ้นจึงตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลเพื่อทำการล้างแผล ซึ่งทางโรงพยาบาลบอกว่าแผลของตนยาที่รับประทานอยู่ไม่สามารถที่จะฟื้นฟูแผลแบบนี้ได้ ทาง รพ.จึงได้ฉีดยาฆ่าเชื้อ ฉีดเข้าเส้นเลือดทำให้แผลดีขึ้น ก่อนติดต่อกลับไปที่คลินิกเพื่อให้ทางคลินิกรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ทางคลินิกบอกว่าจะรับผิดชอบให้แค่ 8,000 บาทเท่านั้น จากจำนวนเงินที่ตนไปรักษาที่ รพ.หมดเงินไป 20,000 บาท ซึ่งตนมองว่าคลินิคไม่มีมาตราฐานและความรับผิดชอบ จึงตัดสินใจจะไปผ่าตัดนำซิลิโคนที่ทำมาออกจากหน้าอก กับคลินิกแห่งใหม่แต่มันมีค่าใช้จ่ายในการเอาออก จึงได้ติดต่อไปทางคลินิกคู่กรณีซึ่งก็บ่ายเบี่ยงไม่มีการเยียวยาแต่อย่างใด
ด้านทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ กล่าวว่ากรณีที่ทางคลินิกให้พนักงานหรือบุคคลที่ไม่ใช่พยาบาลมาผ่าตัดโดยเฉพาะผ่าตัดใหญ่แบบในครั้งนี้จะเข้าข่ายความผิดตามกฏหมาย ส่วนการไม่ใส่ถุงมือระหว่างการผ่าตัดนั้นก็สามารถเอาผิดได้เช่นกัน มองว่าเป็นการประมาทในการประกอบอาชีพ หลังจากนี้จะพาผู้เสียหายที่ สคบ.ต่อไป