เช้าข่าว 7 สี - ตามกันต่อกับเรื่องราวของศูนย์รับเลี้ยงเด็ก ที่จังหวัดนนทบุรี หลังจากที่นำเสนอข่าวไป เมื่อวานนี้ ก็มีผู้ปกครองท่านหนึ่ง ที่นำลูกชายไปฝากให้ทางศูนย์ดูแล มาแชร์ประสบการณ์ที่ได้รับให้ฟัง
เริ่มจากเห็นว่า ศูนย์รับเลี้ยงเด็กที่ว่า ให้เด็กพักค้างคืนได้ มีสระว่ายน้ำ แทรมโพลีน สถานที่สะอาดสะอ้าน เป็นสัดส่วน มีการพาเด็กไปทัศนศึกษา เปิดหูเปิดตา เจ้าของเป็นถึงด็อกเตอร์ น่าเชื่อถือ จึงตัดสินใจนำบุตรชายไปฝากให้ช่วยดูแล มีค่าใช้จ่ายเดือนละ 20,000 บาท ช่วงแรกทุกอย่างก็ดูดี แต่ก็มีบ้างที่ลูกกลับมาบ้านพร้อมรอยฟกช้ำ ซึ่งครูแจ้งว่าลูกชักเกร็งจากโรคประจำตัว จึงล้มเบ้าตาไปกระแทกมุมโต๊ะ แต่ครูบอกว่าไม่มีกล้องตอนเกิดเหตุให้ดู อ้างว่า "กล้องเสีย"
จนมาเริ่มเอะใจก็ตอนที่ลูกกลับบ้าน แล้วนำไปอาบน้ำ ลูกหยิบสายฉีดชำระมาฉีดล้างตัว พร้อมกับพูดว่า "ฉีด ๆ" ก็เลยถามลูกว่าที่ศูนย์ฯ ทำอย่างนั้นหรือ ลูกตอบว่า "ครับ" ตอนนั้นแม้ว่าจะเริ่มสับสนปนสงสัย แต่ก็ยังต้องฝากลูกให้ทางศูนย์ฯ ดูแลต่อ
ต่อมา ผู้บริหารและครูชุดเดิมถูกเปลี่ยนทั้งหมด กิจกรรมที่ทำก็เริ่มน้อยลง ลูกกลับบ้านพร้อมกับร่องรอยฟกช้ำบ่อยขึ้น และติดไข้หวัดกลับมาทุกสัปดาห์ ก็เลยบุกไปขอดูความเป็นอยู่ของลูก ก็เห็นเด็ก ๆ อยู่รวมกันหลายคนในห้องแคบ ๆ ที่นอน หมอนก็สกปรก
และมีอยู่ช่วงหนึ่ง ลูกเริ่มป่วยอีสุกอีใส ครูแจ้งว่าติดจากเด็กคนอื่น แต่ให้วางใจจะดูแลให้ แต่กลับปล่อยให้ลูกป่วยหนัก ร่างกายผ่ายผอม มีรอยแผลอีสุกอีใสขึ้นเต็มตัว ผิวหนังลอก บางจุดเป็นแผลติดเชื้อมีหนอง ส่วนอวัยวะเพศ และทวารหนัก สกปรกหมักหมมจนเกิดอักเสบ และทั้ง ๆ ที่ครูใหญ่ก็มีไลน์ผู้ปกครอง แต่กลับไม่ยอมแจ้งให้ทราบ จนมีครูพี่เลี้ยงที่ทนไม่ไหว แอบส่งไลน์แจ้งให้รับลูกไปโรงพยาบาล รักษาตัวอยู่นานนับเดือน
ผู้ปกครองรายนี้ บอกว่า ช่วงปลายปี 2566 ตนเองตัดสินใจย้ายลูกออก พร้อม ๆ กับมีข่าวครูพี่เลี้ยงลาออกหลายคน จนกระทั่งมาทราบข่าวเจ้าหน้าที่บุกไปช่วยเด็ก ทำให้นึกไปถึงช่วงที่ลูกของตัวเองเคยอยู่ที่ศูนย์ดังกล่าว
