สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจ ที่จังหวัดเชียงใหม่

View icon 309
วันที่ 28 ก.พ. 2567 | 20.06 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
เวลา 09.27 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อุปนายิกาผู้อำนวยการสภากาชาดไทย เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารนิทรรศการ 1 อุทยานหลวงราชพฤกษ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ 1 ประกาศเกียรติคุณ และเข็มที่ระลึกแก่ผู้บริจาคโลหิตครบ 36 ครั้ง และ 108 ครั้ง ประจำปี 2561-2565 ในส่วนภูมิภาคของเหล่ากาชาดจังหวัดภาค 10 รวม 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง และลำพูน ในการนี้ ได้ถวายเข็มที่ระลึกผู้บริจาคโลหิต ครบ 36 ครั้ง และ 108 ครั้ง แด่พระสงฆ์ รวม 26 รูป, ผู้บริจาคโลหิต 100 ครั้ง รับพระราชทานเหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1 จำนวน 75 คน, ผู้บริจาคโลหิต รับพระราชทานเข็มที่ระลึกผู้บริจาคโลหิตครบ 36 ครั้ง 1,392 คน และ 108 ครั้ง 158 คน และผู้แทนหน่วยงานสนับสนุนการบริจาคโลหิต รับพระราชทานประกาศเกียรติคุณ 73 คน เพื่อเชิดชูเกียรติผู้มีจิตศรัทธา ที่บริจาคโลหิตด้วยความสมัครใจ ไม่หวังสิ่งตอบแทน ตลอดจนยกย่องหน่วยงานผู้สนับสนุนการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง

ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย จัดหาโลหิตตั้งแต่ปี 2495 ให้มีปริมาณเพียงพอ มีคุณภาพ และความปลอดภัยสูงสุดสำหรับรักษาผู้ป่วย เพื่อให้บริการโลหิตแก่โรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ แต่ละปีจัดหาโลหิตได้เพียงร้อยละ 4 ของประชากร ซึ่งต้องส่งไปช่วยเหลือโรงพยาบาลทั่วประเทศ ที่ผ่านมาการจัดหาโลหิตยังไม่สม่ำเสมอ ประกอบกับความต้องการใช้โลหิตมีเพิ่มมากขึ้น ทำให้บางช่วงมีโลหิตสำรองไม่เพียงพอ นอกจากนี้ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ยังได้จัดโครงการ "ให้โลหิต ให้ชีวิต ให้ประจำ Give Blood, Give lives, Give forever" รณรงค์ให้ร่วมบริจาคโลหิตสม่ำเสมอทุก 3 เดือน ส่งผลให้มีการบริจาคโลหิตอย่างต่อเนื่อง และเชิญชวนผู้บริจาคโลหิตรายใหม่ ให้มีจำนวนมากขึ้น เพื่อนำโลหิตไปช่วยเหลือชีวิตผู้อื่นต่อไป 

เวลา 13.26 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนไลออนส์มหาจักร 9 อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ทอดพระเนตรการดำเนินงานของโรงเรียน ซึ่งเปิดสอนเมื่อปี 2535 ในชั้นอนุบาล ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ปัจจุบัน มีนักเรียน 83 คน เป็นนักเรียนบ้านไกล 50 คน โรงเรียนให้การศึกษาพัฒนาศักยภาพด้วยกระบวนการเรียนรู้จากการปฎิบัติ เพื่อให้เด็กมีโอกาสศึกษาต่อมากขึ้น จากผลการประเมิน O-NET ที่ต่ำกว่าระดับประเทศ จึงจัดสอนเพิ่มเติมทุกวันจันทร์ ฝึกทำข้อสอบย้อนหลัง และให้ศึกษาจากวิดีโอ มีครูอธิบายเพิ่มเติม เมื่อจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 นักเรียนศึกษาต่อทุกคน ปัจจุบัน มีนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ ที่กำลังศึกษาอยู่ 7 คน ส่วนนักเรียนที่จบแล้วกลับมารับราชการเป็นตำรวจ (ครุทายาท) ปฎิบัติหน้าที่ที่โรงเรียน 1 นาย และผู้ดูแลเด็กก่อนวัยเรียน 1 คน ส่วนชมรมศิษย์เก่าฯ กลับมาช่วยพัฒนาโรงเรียน และมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เช่น ทำแนวกันไฟ ซ่อมแซมถนนเข้าโรงเรียน และจัดกีฬาเชื่อมสัมพันธ์น้องพี่

โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการเรียนการสอน และห้องสมุด "พี่สอนน้องอ่านนิทาน" ให้นักเรียนอ่านนิทานให้น้องฟัง เพิ่มทักษะและฝึกฝนภาษาไทย ทั้งการอ่าน ฟัง และจับใจความ ช่วยให้เด็กสนุกกับภาษาไทย เรียนรู้และเข้าใจภาษามากขึ้น เนื่องจากบางคนใช้ภาษาถิ่นในการสื่อสาร

การประกอบอาหารกลางวัน มีผู้ปกครองผลัดเปลี่ยนมาประกอบอาหาร โดยใช้ผลผลิตจากโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน เน้นรับประทานผักตามฤดูกาล ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย หาซื้อง่าย และมีคุณภาพ และสอนการแปรรูปอาหาร ทำไข่เค็ม มะม่วงกวน และกล้วยตาก

กิจกรรมฝึกวิชาชีพ เน้นงานอาชีพที่จำเป็นสำหรับชีวิตประจำวันให้เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย และวิถีชีวิตในท้องถิ่น เช่น ทอผ้าลายชนเผ่าปกาเกอะญอ ที่กลุ่มแม่บ้านป่าข้าวหลาม มาถ่ายทอดความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาตอนปลายทุกวันศุกร์ โดยสามารถทอย่ามส่งจำหน่าย ที่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 33 และร้านค้าในพื้นที่ โอกาสนี้ ทรงเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ จากบ้านป่าข้าวหลาม เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าปกาเกอะญอ มีอาชีพทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ มีประชากร 246 คน 57 ครัวเรือน เส้นทางคมนาคมลำบาก เป็นถนนลูกรัง ไม่มีไฟฟ้า มีศูนย์สุขภาพชุมชน ดูแลสุขภาพและส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านแม่ละมาน ทั้งนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยแพทย์ตรวจรักษาราษฎรด้วย
   
จากนั้น ทอดพระเนตรโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ส่งเสริมให้ปลูกผัก และไม้ผล เช่น ผักกาดฮ่องเต้ มะเขือยาว และคะน้า และมีการผลิตปุ๋ยหมักไว้ใช้ ผลผลิตเพียงพอบริโภค ด้านปศุสัตว์ เลี้ยงปลาดุก ปลานิล ไก่ไข่ ไก่เนื้อ เป็ดไข่ กบ และหมู มีหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาให้ความรู้เพิ่มเติม ผลผลิตส่งจำหน่ายผ่านร้านค้าสหกรณ์โรงเรียน ส่งเสริมให้นักเรียนรู้จักการทำบัญชีผ่านกิจกรรมสหกรณ์ เช่น บัญชีผลิตผลทางการเกษตร และบัญชีต้นกล้าเศรษฐกิจพอเพียง มีสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์ เชียงใหม่ มาส่งเสริมความรู้ปีละ 2 ครั้ง ทำให้รู้จักการออม สามารถจดบันทึกกิจกรรม เชื่อมโยงกับกิจกรรมการเกษตร และนำความรู้ไปส่งเสริมต่อที่บ้าน

ข่าวอื่นในหมวด