พ่อน้องออนิว เครียด! ลงทุนติดตั้งสัญญาณกันขโมยไฟท้าย แต่ไม่รอดถูกย่องเงียบลักหายทั้งสองข้าง เสียหายหลักหมื่น คาดหัวขโมยชำนาญตัดสายไฟสัญญาณกันขโมย ก่อนถอด วอนตำรวจเร่งล่าตัวหลังพบก่อเหตุหลายพื้นที่
29 กุมภาพันธ์ 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอ่างทอง รับแจ้งเหตุลักทรัพย์บริเวณห้องเช่า ริมถนนสายเลี่ยงเมือง ต.บ้านแห อ.เมือง จ.อ่างทอง ที่เกิดเหตุ พบนายวิชิต อายุ 49 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในห้องเช่าดังกล่าว พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบรถยนต์กระบะ อีซุซุ ดีแมกซ์ ออลนิว สีเทาดำ จอดอยู่ด้านหน้าห้องเช่า ด้านท้ายรถไฟท้ายถูกถอดออกไปทั้งสองข้าง และมีร่องรอยการตัดสายไฟกันขโมย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงให้นายวิชิต นำรถคันดังกล่าว ไปตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเก็บลายนิ้วมือแฝงบริเวณที่เปิดประตูด้านท้าย และบริเวณตัวรถ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลประวัติอาชญากร
นายวิชิต เล่าให้ฟังว่า ตนเองจอดรถอยู่บริเวณด้านหน้าห้องเช่าอยู่เป็นประจำ โดยหลังจากมีข่าวว่ามีแก๊งลักไฟท้ายออกอาละวาด จึงนำรถไปติดกันขโมย เพื่อไม่ให้เปิดฝาท้ายได้ แต่เมื่อวานที่ผ่านมา ตนเองกลับจากทำงานในช่วงเย็น ก็จอดรถไว้เช่นเคย ช่วงกลางดึกได้ยินเสียงที่หน้าบ้าน แต่เมื่อลุกมาดูก็ไม่พบว่ามีสิ่งผิดปกติ แต่อย่างใด จึงกลับเข้าไปนอน เพื่อเตรียมไปทำงานตอนเช้า ต่อมาหลังจากตื่นนอนก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นไฟท้ายรถทั้งสองข้างหายไป มีรอยถูกตัดสายไฟล็อกกันขโมย และน็อตยึดไฟท้ายกระจายเกลื อน จึงรีแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ ซึ่งมีเพื่อนบ้านเห็นรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย เป็นฮอนด้าเวฟ สีดำแดงขับออกไปช่วงเช้ามืด แต่บริเวณดักล่าวไม่มีกล้องวงจรปิด จึงไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า ใช่คนร้ายหรือไม่ ไฟท้ายรถรุ่นนี้มีราคาแพง ทำให้มีการลักขโมยกันบ่อยๆ ซึ่งตนเองเคยเห็น แต่ในข่าวไม่คิดว่าจะเกิดกับตัวเอง
สำหรับเหตุการณ์ลักทรัพย์ไฟท้ายรถยนต์เกิดขึ้นหลายครั้งในหลายท้องที่ คาดว่าเป็นคนร้ายที่ชำนาญ เนื่องจากรู้แม้กระทั่งระบบป้องกันการโจรกรรม ที่เจ้าของรถส่วนใหญ่ไปติดเพิ่มเติม จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่สืบสวนหากลุ่มคนร้ายที่ คาดว่าจะเป็นแก๊งเดียวกันมาดำเนินคดี เนื่องจากสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก
