เป็นมิตรดีกว่าเป็นศัตรู นพดล แจง “อุ๊งอิ๊ง” เยือนกัมพูชา กระชับความสัมพันธ์ระดับพรรค ยัน “ฮุนเซน” พบ “ทักษิณ” เป็นมิตรภาพ 30 ปี ไม่มีเกี๊ยเซียะพื้นที่ทับซ้อน ซัด อย่าชกใต้เข็มขัด
วันนี้ (29 ก.พ.67) นายนพดล ปัทมะ กล่าวถึงกรณีพรรคประชาชนกัมพูชา เชิญ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาในช่วงเดือน มี.ค.ว่า คงเป็นการพูดคุยในเรื่องของพรรคมากกว่าเรื่องของรัฐบาล คงไม่มีการเจราจาเรื่องพื้นที่ที่ทับซ้อนทางทะเล แต่คงเป็นการกระชับความสัมพันธ์มากกว่า และหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเพิ่งรับตำแหน่ง ดังนั้น การร่วมมือกับพรรคการเมืองต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียก็ต้องมีอยู่แล้ว
ส่วนที่สมเด็จฮุน เซน เดินทางมาพบนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะส่งผลต่อการเจรจาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนของไทยและกัมพูชาหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ทั้ง 2 เป็นเพื่อนเก่ากัน นับถือกันมา 30 ปี ความสัมพันธ์ค่อนข้างใกล้ชิด นัยยะคงมีแค่นั้น ไม่มีเรื่องการเกี้ยเซียะกันระหว่าง 2 ตระกูลการเมือง อย่างไรก็ตาม เป็นมิตรก็ดีกว่าเป็นศัตรู การทูตเชิงบุคคลก็ยังมีความสำคัญ แต่เราก็ต้องยึดประโยชน์ของประเทศเป็นหลักด้วย
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างนายทักษิณ และสมเด็จฮุน เซน จะทำให้การเจราจาเรื่องนี้ง่ายขึ้นหรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า ความสัมพันธ์ระหว่างนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ พลเอก สมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต ก็ค่อนข้างดี ไม่อยากให้โยงกับนายทักษิณ เพราะเป็นเรื่องของการเจรจาในรัฐบาลก่อน ซึ่งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ก็เคยเจรจาเรื่องนี้ดำเนินการต่อเนื่องทุกรัฐบาลมา 23 ปีแล้ว และเป็นเรื่องที่ยาก ก็ต้องเจรจากันต่อไป และจะต้องผ่านกรรมการเจทีซี
นายนพดล กล่าวต่อว่า ขอให้เอาความจริงมาพูดกัน เพราะเรื่องนี้เป็นผลประโยชน์ของชาติ และความมั่นคงทางพลังงาน อะไรที่ไม่เห็นด้วยก็นำเสนอต่อกระทรวงการต่างประเทศ แต่อย่ามาพูดว่าประเทศไทยเสียเกาะกูดแล้ว ไม่เป็นความจริง อย่าชกมวยใต้เข็มขัด เอากฎหมายมาพูดกันดีกว่า
“เวลาคนเรารักกัน เชื่อมั่นกันและกัน ก็จะคุยกันได้ง่าย เหมือนมีแฟน ถ้าหวาดระแวง ดูโทรศัพท์กันประจำก็จะลำบาก การสร้างความไว้วางใจเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าความสัมพันธ์ดี สารเคมีตรงกันก็จะเจรจากันได้ง่าย จะมาบอกว่าเกี้ยเซียะกันไม่ได้“
