ขานรับนโยบายนายกฯ ผบก.ตม.2 พร้อมแก้ปัญหาสุวรรณภูมิแน่น

ขานรับนโยบายนายกฯ ผบก.ตม.2 พร้อมแก้ปัญหาสุวรรณภูมิแน่น

View icon 114
วันที่ 1 มี.ค. 2567 | 12.35 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ผบก.ตม.2 ขานรับนโยบายนายกฯ แก้ปัญหาสุวรรณภูมิแน่น เสริมกำลังพล ใช้เทคโนโลยีช่วยลดขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง อำนวยความสะดวกผู้เดินทาง ดัน “สุวรรณภูมิ” เป็นสนามบินติด 1 ใน 50 ของโลก

สนามบินสุวรรณภูมิ วันนี้ (1 มี.ค.67) พล.ต.ต. เชิงรณ ริมผดี ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 2 และโฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมพร้อมรับมือระบบตรวจคนเข้าเมือง โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่มีคนเดินทางจำนวนมากกว่า เป้าหมาย โดยระบุว่า การบ้านที่ ตม.2 ได้รับ เป็นโจทย์ที่ต้องเร่งขับเคลื่อน และทำให้สำเร็จโดยเริ่มกระบวนการมาตั้งแต่ปลายปี 2566 ซึ่งการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าภายใต้ข้อจำกัดคือเรื่องของกำลังพล เพราะกำลังพลของตรวจคนเข้าเมืองของสนามบินถูกย้ายออกไป 40% เมื่อนายกฯมารับทราบปัญหาก็ได้รับการสนับสนุน และก่อนถึงช่วงเดือนเมษายน ก็จะได้รับการสนับสนุนกำลังพล 200 คน  อีกทั้งได้ลงพื้นที่เริ่มปฏิบัติงาน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และในระยะต่อไปจะรับเพิ่ม 330 คน

สำหรับการแก้ปัญหาในส่วนที่ 2 คือเรื่องเทคโนโลยี ที่มีผู้ให้บริการหลายเจ้า ดังนั้นการทำงานให้เป็นระบบเดียวจึงมีความยาก ขณะนี้ ตม. ได้ออกแบบโครงการ Thailand Immigration system พัฒนาระบบ ตม.ให้เหลือระบบเดียวทำงานควบคู่กันในการตรวจคนเข้าประเทศ การออกวีซา การขอพำนักในประเทศ การเดินทางออกและระบบตรวจบุคคลต้องห้ามให้เป็นระบบเดียว เพื่อให้เกิดความเสถียรในการทำงาน  เช่น บางสนามบินการเดินทางออก อาจไม่ต้องผ่าน ตม. แต่จะใช้ระบบประมวลผลตรวจสอบของสายการบิน แต่เรื่องนี้อย่าถือเป็นการทำงานระยะยาวที่จะเกิดขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า แต่ในระยะสั้นนี้ ตม.ใช้ระบบ ตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ และสามารถตรวจชาวต่างชาติได้ แต่เครื่องมีจำกัดประมาณ 18 เครื่อง และในช่วงเดือนกรกฎาคมบริษัทการท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) จะสนับสนุนอุปกรณ์จัดซื้อเครื่องตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติ โดยเฉพาะขาออกนอกประเทศ ประมาณ 50 เครื่อง และขณะนี้ได้หารือกับศูนย์เทคโนโลยีตรวจคนเข้าเมือง รวมถึงฝ่าย ทอท. 

นอกจากนั้น ผบช.สตม. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีแนวคิด ที่จะนำเทคโนโลยีมาใช้ที่จะนำมาตรวจคนเข้าเมืองให้เร็วขึ้น ไบโอแมทริกซ์ หรือการเก็บลายนิ้วมือ ใบหน้า เพื่อยืนยันตัวบุคคล ลดขั้นตอนไม่ต้องเสียเวลาหน้าเครื่องตรวจ โดยมีการออกแบบระบบลงทะเบียนล่วงหน้าในระยะเร่งด่วน เช่น การตั้งอุปกรณ์ หรือโน๊ตบุ๊ก ก่อนที่จะเข้าช่องตรวจ ตม. ส่วนงบประมาณใดจะมาจากส่วนใดนั้น จาก ทอท. หรือค่าธรรมเนียมของ ตม. ซึ่งก็ต้องมาหารือกัน

อีกทั้งจะมีการลดขั้นตอน ที่ไม่จำเป็นและไม่กระทบกับความมั่นคง เพื่อลดระยะเวลา เช่น การเดินทางออกนอกประเทศ ว่า อาจไม่ต้องเก็บลายนิ้วมือ เนื่องจากมีประวัติอยู่ในฐานข้อมูล ก็จะทำให้ออกได้เร็วเหลือพื้นที่สำหรับรองรับขาเข้า

ส่วนต่างชาติที่เดินทางออกนอกประเทศก็จะโชว์อยู่ในระบบบันทึกข้อมูลอยู่แล้วไม่ต้องเสียเวลาประทับตรา สำหรับการเดินทางเข้าประเทศ เจ้าหน้าที่ไม่ต้องเสียเวลาคีย์ข้อมูล โดยจะต้องแก้ไขโปรแกรมเพื่อรองรับตรงนี้ ซึ่งจะดูว่า ตัวบุคคลกับหนังสือเดินทางตรงกันหรือไม่ มีสิทธิเข้าประเทศหรือไม่ ติดแบล็กลิสต์หรือมีหมายจับหรือไม่ ถ้าไม่มี 3 อย่างนี้ ก็เข้าได้เลย จะทำให้ลดเวลาได้ประมาณ 15 วินาที

ส่วนมาตรฐานในการตรวจคนเข้าเมืองไม่เกิน 45 วินาทีต่อคน เนื่องจากมีทางหลักช่องทางเดียว ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ในการเดินทางเข้า จะมีการกระจุกตัว ประมาณ 5,000 คน ในขณะที่โถงรองรับได้ 2,000 คน จึงต้องใช้ขั้นตอนตรวจให้เร็วอยู่บนหลักของความมั่นคง ไม่ให้นำคนไม่ดีเข้าประเทศ และประชาชนจะเดือดร้อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง