อดีต นพ.สสจ. ยืนยันไม่ได้ลวนลามลูกจ้างสาวชาวสปป.ลาว เอ็นดูเหมือนลูกสาว เสียใจถูกกล่าวหาว่าคิดเชิงชู้สาว
จากกรณีวานนี้ (3 มี.ค.67) ตร.สภ.เมืองอุดรธานี เข้าช่วยเหลือสาวชาวสปป.ลาวอายุ 18 ปี ที่ถูกนายจ้างกักขังไว้ในบ้าน ภายในซอยโพนพิสัย 2 ถ.โพนพิสัย ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี เมื่อไปถึงพบ น.ส.แพรวา อายุ 18 ปี ยืนร้องไห้ที่หน้าประตู พร้อมกับเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปด้วย ตำรวจจึงให้ปีนกำแพงรั้วข้างบ้านออกมาอย่างปลอดภัย
น.ส.แพรวา เล่าว่า ถูกนายจ้างที่เป็นอดีตหมอที่เกษียณ ลวนลามและพยายามอนาจารอยู่บ่อยครั้ง พอปฏิเสธ ไม่ยินยอม นายจ้างก็จะบอกว่าหยอกเล่น ตนเองทนไม่ไหว ตั้งใจจะขอลาออก พร้อมขอเงินเดือนที่ยังไม่จ่ายอีก 1 เดือนแต่นายจ้างไม่ยอม และไม่เซ็นสัญญาเลิกจ้างให้ พร้อมขู่ว่าหากออกไปหรือหลบหนีไป ตนจะมีความผิดสัญญาตามกฎหมาย จึงทำให้ตนทนอยู่มาถึง 6 เดือน ก่อนฟางเส้นสุดท้ายจะขาด ได้โทรปรึกษาแม่และแฟนหนุ่มชาวลาวด้วยกัน และพี่ชายก็เดินทางมาช่วยเหลือ
คลิกอ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เร่งสอบเอาผิดนายจ้าง อนาจารลูกจ้างสาวชาว สปป.ลาว
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (4 มี.ค.67) พ.ต.อ.พัฒน์วงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เผยว่า ทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ส่งตัว น.ส.แพรวา ไปตรวจร่างกายเพิ่มเติม เพื่อประกอบสำนวนคดีว่า ถูกกระทำล่วงละเมิดทางเพศ และถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่ก่อนจะพามาสอบปากคำเพิ่มเติม และจะติดต่อนายจ้างเช มาสอบสวนปากคำ เพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา “กระทำการอนาจาร” ซึ่งเป็นคดีที่ยอมความกันได้ เนื่องจากไม่ได้ทำต่อหน้าธารกำนัล อย่างไรก็ตามจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายจ้าง เพื่อขอสัมภาษณ์และให้ชี้แจง แต่ไม่อนุญาตให้บันทึกเสียง นายจ้าง เปิดเผยว่า ตนเป็นหมอเกษียณอายุราชการแล้ว ตำแหน่งก่อนเกษียณคือ นพ.สสจ.หนองคาย ปัจจุบันเปิดคลินิกอยู่ที่ อ.โซพิสัย จ.บึงกาฬ ในช่วงวันหยุด ที่ตนถูกกล่าวหาว่าไปลวนลาม และกระทำอนาจาร ลูกจ้างที่เป็นชาวลาวนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ไม่ได้คิดในเชิงชู้สาวกับเขาแต่อย่างใด เป็นเพียงการแสดงความรักต่อเขาเหมือนกับลูกสาว ที่ทำหน้าที่ดูแลคุณย่าก็เท่านั้น เพราะตนก็มีภรรยาและลูกสาว จะไปทำอย่างนั้นทำไม
นายจ้างซึ่งเป็นอดีตหมอ บอกอีกว่า พร้อมจะให้ปากคำและข้อมูลกับตำรวจ เพื่อแสดงคความบริสุทธิ์ใจ ในส่วนเงินเดือนที่ค้าง 1 เดือนนั้น ตนขอชี้แจงว่าครบกำหนดในวันที่ 8 มีนาคม 2567 ตนก็รู้สึกเสียใจที่เขามากล่าวหาว่าตนไปลวนลามในเชิงชู้สาว ซ้ำยังกล่าวหาว่าตนกักขังไม่ให้ออกจากบ้านไปไหน แต่กุญแจบ้านทุกดอกก็อยู่กับเขา ออกจากบ้านไปทิ้งขยะทุกวัน หากเขาจะหลบหนีก็ทำได้ตลอดเวลาอยู่แล้ว
ส่วนที่ตำรวจมากดกริ่งหน้าบ้านแล้วไม่มีใครเปิดให้นั้น ตนไม่ได้ยินเสียง เนื่องจากกริ่งหน้าบ้านเสีย อย่างไรก็ตามตนก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากมีการติดต่อมา