สนามข่าว 7 สี - ไปดูการจับปูดำ ปูทะเล ของชาวเลในจังหวัดปัตตานี ซึ่งเป็นวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้าน ที่ปัจจุบันมีการส่งเสริมไปสู่การเลี้ยงในบ่อดิน จนกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจ สร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชาวบ้านนับพันล้านบาทต่อปีกันเลย ไปติดตามจาก คุณอรรถพล ดวงจินดา ในช่วงปักหมุดของดีทั่วไทย
ชาวประมงพื้นบ้าน ที่บ้านตันหยงลุโละ ตำบลบาราโหม อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี จะนำเรือหางยาวออกไปเก็บกู้ลอบดักปูตามลำคลองและรากต้นโกงกาง เป็นวิถีชีวิตของคนที่นี่ หลังจากที่นำเหยื่อปลาสดไปวางล่อปูทิ้งไว้ ซึ่งปัจจุบันปูทะเลตามธรรมชาติ พบมากขึ้นจนสร้างรายได้เลี้ยงดูครอบครัวด้วยปูทะเล ทำให้คุณภาพชีวิตชาวเลดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากที่คนในพื้นที่ และหลายภาคส่วนช่วยกันอนุรักษ์ ปล่อยพันธุ์ลูกปูอย่างจริงจัง ทำให้ป่าชายเลนของจังหวัดปัตตานี กลายเป็นแหล่งรายได้ให้คนในพื้นที่ ที่มั่นคงขึ้น
ชาวประมงพื้นบ้านที่นี่ บอกว่า ปูดำ หรือปูทะเล มีราคาแพง ราคา 400-800 บาทต่อกิโลกรัม หากจับปูได้วันละ 4-10 ตัว ก็จะมีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อย่างสบาย ๆ โดยไม่ต้องออกเรือ ไปทำประมงนอกทะเลให้เสี่ยงคลื่นลมกันเลย
อย่างสัตว์น้ำทะเลที่จับได้ จะถูกแยกขายตามประเภท ส่วนปูดำไซซ์เล็ก ที่ไม่ได้ขนาดก็ยังขายได้ เพราะจะมีคนรับซื้อลูกปูเข้ามาถึงที่ จนชาวบ้านที่นี้มีรายได้เพิ่มขึ้นในทุก ๆ วัน
ลูกปูดำไซซ์เล็ก ไม่ได้ขนาดเหล่านี้ ก็ไม่ได้ถูกพาไปที่ไหนไกล จะถูกนำไปปล่อยในบ่อกุ้งร้าง ที่เกษตรกรในจังหวัดปัตตานี ปรับเปลี่ยนไปเป็นบ่อเลี้ยงปูดำ นำพันธ์ุลูกปู และรับซื้อลูกปูที่ไม่ได้ขนาดจากชาวบ้าน ไปเลี้ยงต่อในบ่อดิน เปลี่ยนจากปูตัวหลัก 4-5 สิบบาท ไปเป็นตัวละ 4-6 ร้อยบาท ได้ในเวลาราว 4-6 เดือน จนพูดได้เต็มปากเลยว่า สามารถพลิกฟื้น เปลี่ยนพื้นที่รกร้าง ไปเป็นที่สร้างมูลค่าให้จังหวัดปัตตานีกันเลย
สภาพพื้นที่บ่อกุ้งรกร้าง ริมชายทะเลในจังหวัดปัตตานี มีมากกว่า 400,000 ไร่ ปัจจุบันเกษตรกรสนใจ เปลี่ยนเป็นบ่อเลี้ยงปูดำไปแล้วกว่าแสนไร่ แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการปูดำในประเทศ แม้ว่าปูดำจะเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่าย ทนต่อทุกสภาพน้ำและอากาศ เมื่อเทียบกันให้เห็นชัด ๆ ง่าย ๆ ถ้าเกษตรเลี้ยงปูดำแค่ 200,000 ไร่ เฉพาะในจังหวัดปัตตานี ปูดำนี้จะกลายเป็นแหล่งสร้างเงินให้ชาวบ้น ได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะกลายเป็นเมืองปูทะเลโลกในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ได้อย่างมั่งคงในอนาคตด้วย
