สนามข่าว 7 สี - ตอนแรกเข้าใจว่าจะมีเหยื่อแค่ 3 คน ที่ถูกตำรวจหน่วยคอมมานโดนายหนึ่ง ใช้ภาพขณะร่วมรักกันข่มขู่แบล็กเมล จะเพื่อเงินก็ดี จะเพื่อได้สานสัมพันธ์เป็นครั้งคราวก็ดี แต่จากข้อมูลล่าสุดเหมือนจะไม่ได้มีเท่านั้น ที่สำคัญพฤติการณ์แบบนี้อาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ด้วย
คำตอบนี้ก็น่าจะชัดพอแล้ว สำหรับผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องเจอกับเรื่องราวร้าย ๆ มาตลอด 1 ปี กับพฤติกรรมที่ตำรวจ ยศสิบตำรวจโท สังกัดกองกำกับการต่อต้านการก่อการร้าย กองบังคับการปฎิบัติการพิเศษ หรือ "คอมมานโด" ย่ำยีชีวิต หลังสิ้นสุดความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน
ข้อมูลที่ทีมข่าวได้รับมา ชนวนเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้เสียหายคนนี้ต้องเลิกรากับตำรวจหนุ่มนายดังกล่าว ไม่ใช่เรื่องการถ่ายคลิปขณะร่วมรักกัน แต่เป็นเพราะผู้ชายคนนี้เจ้าชู้ ปากร้าย อารมณ์ร้าย แล้วจับได้ว่าแอบคบซ้อนอยู่กับผู้หญิงอีกคน และผู้หญิงคนนั้นก็อาศัยอยู่ในแฟลตที่พักข้าราชการตำรวจเหมือนกันด้วย
นอกจาก 2 คนนี้ ก็ยังมีคนที่ 3 และคนที่ 4 ที่เลือกจะขอความเป็นธรรม หวังให้ตำรวจนายนี้ได้รับโทษ เพราะหนึ่งในนั้นเคยคุยกัน จนถึงขั้นเจรจาทำข้อตกลงกันว่า หากจ่ายเงิน 400,000 บาท ก็จะยอมลบคลิปร่วมรักทั้งหมด แต่สุดท้ายจ่ายเงินไปเกือบครบ ก็ไม่มีทีท่าว่าจะตามลบคลิปทั้งหมดที่ปล่อยออกไปได้อย่างไร ส่วนอีกคนบอกว่า เคยถูกตำรวจหนุ่มนายนี้ไล่ไปทำแท้งมาแล้ว
และนี่ก็อาจนับเป็นรายที่ 5 ที่ติดต่อเข้าไปคุยกับเพจ "เป็นหนึ่ง" ว่าเคยถูกถ่ายคลิปแล้วนำไปปล่อยในโซเชียล จนตัวเธอต้องอับอาย อยากรู้ว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ได้บ้าง
ฟังกันจนถึงจุดนี้ พลตำรวจตรี ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้รับเรื่องร้องเรียน นอกจากจะอธิบายเรื่องความคืบหน้าทางคดี ว่ามีการแจ้งข้อหากับตำรวจนายนี้ไปแล้ว เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ที่ผ่านมา และจะมีการสอบสวนเอาผิดทางวินัยอย่างเคร่งครัด
มีรายงานข่าวว่า เมื่อวาน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เรียกหัวหน้าหน่วยของตำรวจนายนี้ไปซักถามข้อเท็จจริง เพื่อพิจารณาความผิดของผู้ต้องหาว่าจะเข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์ หรือเป็นความผิดต่อส่วนตัว ขณะที่วันนี้ จะมีการพิจารณาเรียกตำรวจนายดังกล่าวเข้าชี้แจง ซึ่งก็มีกระแสข่าวออกมาด้วยว่า ตำรวจนายดังกล่าวได้ยอมรับข้อเท็จจริงกับผู้บังคับบัญชาแล้ว
