เพื่อนบ้านมหาภัย ก่อกวนไม่เลิก แจ้งความแล้ว 8 ครั้ง ยิงปืนโชว์ตร.

View icon 136
วันที่ 8 มี.ค. 2567 | 16.23 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - สองพี่น้อง เจอเพื่อนบ้านมหาภัย มาก่อกวนที่บ้านไม่หยุด ไปแจ้งความมาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ขนาดตำรวจสายตรวจขี่รถมาส่งที่บ้าน ยังถูกเพื่อนบ้านรายนี้ยิงปืนขู่

นางสาวจริยา แสงเดือน อายุ 31 ปี หรือ แอม เดินทางเข้าพบนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกเพื่อนบ้าน ตามหาเรื่อง สร้างความเดือดร้อนรำคาญ และบุกทำลายทรัพย์สิน เหตุเกิดในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านดอนเมือง

นางสาวจริยา ระบุว่า ตนเองได้เข้ามาซื้อบ้านอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ เป็นเวลาประมาณ 7 เดือน ที่ผ่านมาก็ใช้ชีวิตตามปกติปกติ ก่อนที่ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีเพื่อนบ้านที่อยู่บ้านหลังถัดไปที่ชื่อว่า นายเอ (นามสมมติ) เข้ามาหาที่บ้าน มาตีสนิทด้วย เอากะปิมาให้กิน จากนั้นก็มาหาน้องชายตนอยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นคนใต้เหมือนกัน พูดคุยกันถูกคอ

และมีการชวนน้องชายตนเองไปทำงานปล่อยเงินกู้ โดยให้เงินค่าจ้างวันละ 500 บาท แต่น้องชายปฏิเสธ เพราะให้เหตุผลว่าไม่ได้เดือดร้อนทางด้านการเงิน ต่อมานายเอ ได้นำปืนมาขายให้น้องชายตนเอง น้อยชายตน จึงซื้อเอาไว้ โดยตกลงกันว่าจะผ่อนจ่ายเป็นรายเดือน หลังตนเองเห็นน้องชายมีปืนอยู่ในบ้าน ตนจึงสั่งให้น้องชายเอาปืนไปคืนเขาทันที นายเอ ก็รับปืนคืนไปโดยไม่ได้ว่าอะไร จากนั้น นายเอได้ชวนน้องชายตนเอง เที่ยวร้านหมดเงินไป 50,000 บาท ก่อนจะกลับจากร้านอาหารมากินต่อที่บ้านนายเอ และนายเอได้ใช้น้องชายไปกดเงินให้อีก 20,000 บาท พอน้องตนกดเงินมาให้นายเอได้ให้ค่ากดเงินน้องตนมา 5,000 บาท บอกให้เก็บไว้ใช้

จากนั้นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 นายเอได้โทรศัพท์มาเรียกให้น้องชายตนไปที่บ้าน จากนั้น นายเอได้ยึดโทรศัพท์น้องชายตนเอาไว้ ตนโทรเรียกตำรวจสายตรวจให้มาเจรจาเอาโทรศัพท์คืนให้ แต่พอตำรวจไปถึงบ้านนายเอ นายเอได้พูดจาท้าทายตำรวจ มีการหาเรื่องตำรวจอีก และปฏิเสธจะคืนของให้

จากนั้น ตำรวจได้แนะนำให้ตนไปแจ้งความ ตนกับน้องชายจึงได้เดินทางไปแจ้งความที่ สน.ดอนเมือง พอประมาณ 01.00 น. ตนได้เดินทางกลับมาบ้าน โดยมีตำรวจมาส่งด้วย พอตนยืนคุยกับตำรวจอยู่หน้าบ้าน นายเอ ได้ยิงปืนออกมานอกบ้านหลายนัด ทั้งตนเองและตำรวจพากันวิ่งหนีกันกระเจิง

ตำรวจจึงต้องเรียกกำลังเสริมเข้ามาควบคุมสถานการณ์ล้อมบ้านนายเอไว้ พอถึงตอนเช้าได้บุกเข้าควบคุมตัวไปดำเนินคดี จากนั้นได้นำตัว นายเอ ไปฝากขังที่ศาลอาญา หลังจาก นายเอ อยู่ในเรือนจำได้เพียง 2 อาทิตย์ ศาลได้อนุญาตให้ นายเอ ประกันตัวออกมา หลังนายเอ ออกมา ได้มีการมาหาเรื่องที่บ้านอยู่เหมือนเคย มีการตะโกนหน้าบ้านหาว่าตนโกงเงินไปจำนวน 50,000 บาท และมีการพกอาวุธมีดดาบมาโวยวายที่หน้าบ้านอีก มีการโยนขวดเข้ามาในบ้าน และมีการเข้าไปหาเรื่องกันในกลุ่มแชตไลน์ของหมู่บ้าน ซึ่งตนเองได้พยายามอธิบายตลอดว่าไม่เคยมีการยืมเงิน หรือคดโกงเงินจำนวนดังกล่าวมา แต่นายเอ ก็ไม่ยอมฟังและไม่ยอมเลิกลา โดยเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2567 เวลา 23.40 น. ตนไปเจอ นายเอ ในร้านสะดวกซื้ออีก และได้ปะทะคารมกันเกิดขึ้น จากนั้น นายเอ ได้ขับรถกลับที่บ้าน ไปหยิบของบางอย่างออกจากบ้าน และได้พังกุญแจประตูหลังของหมู่บ้านหนีออกไป

จากนั้นเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 นายเอ ได้ขับรถมาที่หน้าบ้าน ได้บีบแตรยาว จากนั้นได้ขับรถผ่านไป และย้อนกลับถอยหลังรถเข้ามาชนประตูบ้านและรถยนต์ที่อยู่ในบ้านจนเสียหาย จากนั้นก็ขับรถออกไป

ทุกครั้งที่เกิดเรื่องตนเองได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ทั้งหมด 8 ครั้ง

ครั้ง 1 แจ้งความวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 00.13 น.ข้อหา ยึดโทรศัพท์น้องชายไว้ไม่ยอมให้คืน (มีกล้องวงจรปิด ยิงปืน)

ครั้ง 2 แจ้งความวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14.58 น แจ้งความเพิ่มในข้อหา พาพวกมาขี่รถวนหน้าบ้านก่อให้เกิดอันตรายกับตนในบ้าน

ครั้ง 3 วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 11.37 น. โพสต์ทวงเงิน 50,000 บาท ทำให้เกิดความเสียหาย

ครั้ง 4 วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 09.11 น. ข้อหา มาโวยวายข่มขู่หน้าบ้าน

ครั้ง 5 วันที่ 2 มีนาคม 2567 เวลา 20.24 น. ข้อหา ส่งข้อความมาข่มขู่น้องชาย

ครั้ง 6 วันที่ 6 มีนาคม 2567 เวลา 12.06 น. ข้อหา นำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์

ครั้ง 7 วันที่ 6 มีนาคม 2567 เวลา 23.40 น. ทำร้ายร่างกายในร้านสะดวกซื้อ

ครั้ง 8 วันที่ 8 มีนาคม 2567 เวลา 08.52 น. ข้อหา ถอยรถมาชนประตูบ้านกับรถยนต์ในบ้าน (มีกล้องวงจรปิด)

ทุกครั้งที่เกิดเรื่องได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาลงพื้นที่ทุกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรผู้ต้องหารายนี้ได้ ตอนนี้ตนเองกับน้องชายต้องอยู่กันอย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ

ด้านนายเอกภพ ระบุว่า ตนเองตั้งข้อสันนิษฐานว่า คู่กรณีรายนี้อาจจะมีอาการป่วยทางจิตหรือไม่ เนื่องจากในบางคลิปที่มีการบันทึกไว้มีการพูดจาไม่รู้เรื่อง ซึ่งทราบว่าคู่กรณีก็ไม่มีคนพักอาศัยอยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้นหากเป็นผู้ป่วยทางจิตจริงและไม่มีผู้ควบคุมดูแล การอยู่ร่วมกันในหมู่บ้านหรือสังคมแบบนี้อาจจะสร้างความอันตรายให้กับคนอื่นได้ ตนจึงได้ประสานไปยังท่าน ผกก.สน. ดอนเมือง ได้คำตอบว่าหลังจากนี้ จะทำเรื่องคัดค้านการประกันตัวไปยังศาล เพราะผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมข่มขู่พยาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง