สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ทุก(ข์)ชีวิต วันนี้ลงพื้นที่จังหวัดยะลา ติดตามกับคุณปอย ภานุรัจน์ ศนีบุตร
หญิงพิการตาบอด อยู่บ้านกับสามีพิการตาบอด เลี้ยงลูก 2 คน วอนขอความช่วยเหลือ หลังต่อเติมบ้านหวังเปิดร้านนวดตามวิชาที่ได้เรียนมา แต่สุดท้ายถูกช่างก่อสร้างฉ้อโกง ทำให้ไม่เป็นไปตามแบบ ทำให้ขณะนี้ขาดแคลนรายได้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
นางสาวสารอมียะฮ ยะโกะ หญิงพิการตาบอด อายุ 30 ปี พาทีมข่าวไปยังบ้านในตำบลบุดี อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ซึ่งสภาพบ้านเดิมเป็นบ้านไม้ แต่ก็ได้ต่อเติมหน้าบ้านเป็นปูน หวังเป็นที่รองรับลูกค้าที่จะมาใช้บริการร้านนวด แต่สุดท้ายก็ยังเปิดไม่ได้
นางสาวสารอมียะฮ บอกว่า ตนเริ่มพิการทางสายตาตั้งแต่วัย 3 ขวบ หลังจากขี่รถจักรยานในหมู่บ้านแล้วล้ม เลือดคั่งในสมองทับเส้นประสาทตา ส่วนสามีพิการทางสายตาตั้งแต่อายุ 7 เดือน เนื่องจากป่วยเป็นไข้
ซึ่งก่อนโควิด-19 ระบาด ตนกับสามี ซึ่งพิการทางสายตา 100 % ทั้ง 2 คน ซึ่งตนและสามีไปอบรมวิชานวดแผนไทย จากสมาคมคนตาบอด สาขาภาคใต้ตอนล่าง จึงพอจะใช้วิชานี้หากินได้บ้าง แต่ขณะนี้กลับซบเซา ไม่มีลูกค้าใช้บริการ ทำให้ตนและสามีลำบากอย่างมาก กระทั่งโควิด-19 ระบาด ร้านนวดต้องปิดตัว เพราะสู้กับค่าเช่าไม่ไหว จึงขนย้ายเตียงนวด และสิ่งของไปฝากไว้ที่บ้านของเพื่อน
จากนั้นก็คุยกับสามีว่าจะทำอย่างไรกันดี เพราะชีวิตต้องเดินหน้าต่อ จึงรวบรวมเงินไปซื้อสิ่งของ เช่น น้ำมันนวด ไปขายตามตลาดนัดและในหมู่บ้าน ก็พอประทังชีวิตคนในครอบครัวได้
กระทั่งตัดสินใจใช้เงินเก็บที่ได้จากการนวด ให้ช่างมาต่อเติมหน้าบ้าน เป็นห้องอีก 1 ห้อง เพื่อจะรองรับลูกค้าที่จะมาใช้บริการนวด โดยตกลงค่าก่อสร้าง 120,000 บาท แต่ปรากฎว่า ช่างสร้างได้ไม่ตรงตามแบบ ทั้งที่เบิกเงินไปแล้วมากกว่า 85,000 บาท ตนจึงให้ช่างแก้ไข แต่สุดท้ายช่างก็ทิ้งงาน
หลังเกิดเรื่องดังกล่าว ก็ทำให้ตนและสามีต้องฮึดสู้อีกครั้ง เหมือนเริ่มนับหนึ่ง แต่ด้วยสายตาที่บอดสนิท ก็ทำให้หางานทำได้ยาก บางครั้งก็ต้องไปหยิบยืมเงินจากญาติพี่น้อง หรือ เพื่อนๆ เพื่อนำมาประทังชีวิตลูก ๆ 2 คน ที่กำลังเรียนหนังสือ โดยคนโตวัย 10 ขวบ เรียนอยู่ ป.3 และคนเล็กวัย 5 ขวบ เรียนอนุบาล 2 และเมื่อได้เงินช่วยเหลือคนพิการ ก็นำไปคืนคนที่หยิบยืมมาครึ่งหนึ่ง ที่เหลือนำมาใช้จ่ายในครอบครัว
ซึ่งขณะนี้แต่ละเดือนครอบครัวของตน มีรายได้จากเบี้ยคนพิการที่ได้เดือนละ 800 บาท บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนพิการได้รับเงินพิ่มเดือนละ 200 บาท ตนกับสามีจึงได้รวมกัน 2,000 บาท ของอุปโภคบริโภค คนละ 300 บาท และเงินอุดหนุนเด็กของลูกคนเล็ก เดือนละ 600 บาท ทำให้รายได้ไม่เพียงพอเลี้ยงดูครอบครัว
ทำให้ขณะนี้สามีต้องกลับไปอยู่ของแม่ที่ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
ด้าน นายอับดุลฮามิต สะมะแอ คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง บอกว่า ตนรับส่งหญิงคนนี้มานานหลายเดือน เพราะเห็นว่าเวลาจะเดินทางไปมาไหนก็ลำบาก จึงอาสารับส่ง โดยแต่ละครั้งก็จะโทรศัพท์ไปหาตน พร้อมกับแจ้งที่หมายว่าจะไปที่ไหน โดยการใช้บริการแต่ละครั้งก็จะจ่ายเงินไม่เท่ากัน และบางครั้งตนก็ไม่ได้เก็บค่าบริการ เพราะรู้ว่า นางสาวสารอมียะฮ หาเงินได้ยาก มีรายได้น้อย ฐานะก็ยากจน เพราะทำงานไม่ได้ พิการทางสายตา และบางครั้งก็แล้วแต่ นางสาวสารอมียะฮ จะจ่ายให้ตนก็ไม่ได้คิดมาก ขณะที่ในช่วงเช้าแต่ละวัน ก็ต้องส่งลูกไปโรงเรียน เงินก็ไม่เพียงพอ ตนจึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐ หรือ ผู้ใจบุญ ช่วยเหลือ นางสาวสารอมียะฮ
สำหรับผู้ใจบุญที่อยากช่วยเหลือ นางสาวสารอมียะฮ สามารถบริจาคได้ตามบัญชีชื่อ นางสาวสารอมียะฮ ยะโกะ ธนาคารออมสิน สาขายะลา เลขบัญชี 0203-6149-3784 ประเภท บัญชีเงินฝากเผื่อเรียก