สนามข่าว 7 สี - ลูกชายติดต่อแม่ไม่ได้นับ 10 วัน มาตามหาถึงบ้านที่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ถึงกับช็อก พบแม่ถูกยิงเสียชีวิตอยู่ในบ้าน พร้อมหญิงคนสนิท แต่ที่น่าแปลกใจ ทำไมเวลาเสียชีวิตของทั้ง 2 คน ห่างกัน 2 วัน
ภาพนาทีตำรวจเข้าตรวจสอบในอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น อยู่ริมถนนคันคลองชลประทาน เทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ด้านหน้าต่อเติมเป็นห้องกระจก เปิดเป็นสำนักงานและใช้เป็นที่พักด้วย ส่วนบริเวณชั้นล่างมีกระจกกั้นแยกเป็นห้อง ๆ โดยที่ห้องด้านในสุดซึ่งล็อกประตูเอาไว้ แต่มองเห็นด้านในมีร่างคนนอนอยู่กับพื้น โดยมีผ้าคลุมปิดร่างเอาไว้
เมื่อตำรวจปลดล็อกประตูเข้าไปในห้องดังกล่าว เปิดผ้าที่คลุมออกพบผู้เสียชีวิตศพแรก ก็คือ หญิงอายุ 63 ปี เจ้าของบ้าน (ทำธุรกิจเจ้าของโรงหล่อพระ จำหน่ายผ้าม่าน และโต๊ะมุก) ที่หน้าอกมีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืน 1 นัด ซึ่งจากสภาพศพขึ้นอืด คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 7 วัน
ส่วนศพที่ 2 หญิงอายุ 46 ปี เป็นคนสนิทกับเศรษฐินีเจ้าของบ้าน โดยเสียชีวิตในท่านอนตะแคง ที่ขมับด้านขวามีรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืน ผลตรวจพลิกศพเบื้องต้นพบเสียชีวิตมา 5 วัน ซึ่งนั่นเท่ากับว่าทั้ง 2 ศพ เสียชีวิตห่างกัน 2 วัน
ลูกชายของหญิงอายุ 63 ปี บอกว่า ปกติแม่พักอยู่บ้านนี้คนเดียว โดยมีหญิงคนสนิทคอยดูแล ช่วยขับรถพาแม่ไปไหนมาไหน กระทั่งมาขาดการติดต่อตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ตนและภรรยาเป็นห่วง จึงขับรถจากกรุงเทพฯ มาหาแม่ที่บ้าน พอมาถึงเห็นผิดสังเกตหลายอย่าง ทั้งประตูถูกล็อกจากด้านใน เครื่องปรับอากาศก็เปิดทำงาน พยายามตะโกนเรียกแม่ให้เปิดประตูก็ไม่ได้ผล จึงปีนหน้าต่างบานเกล็ดด้านหลังบ้านเข้าไปด้านใน ถึงกับผงะ ได้แต่กลิ่นเหม็นรุนแรงโชยทั่วบ้าน จึงแจ้งตำรวจตรวจสอบก่อนพบแม่เสียชีวิตแล้วในสภาพถูกยิง จึงเกิดคำถามขึ้น แล้วใครกันเป็นผู้ก่อเหตุ
หลักฐานที่พบในบ้านนอกจากโกศเปล่าตั้งอยู่ 2 โกศ และกระดาษ (ขนาดเท่าเอ 4) 2 แผ่น โดยแผ่นแรกเขียนข้อความลักษณะพินัยกรรม ระบุวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ใจความว่า "ถ้าเธอได้เสียชีวิตลงด้วยเหตุอันใดก็ตาม ขอมอบบ้าน และที่ดิน 2 แปลง ให้กับลูกสาวทั้งสองคน โดยแบ่งให้คนละ 50% ส่วนสามีชาวต่างชาติ ให้อยู่บ้านและที่ดินได้จนเสียชีวิต แต่ไม่มีสิทธิ์ในที่ดินและบ้าน"
ส่วนข้อความบนกระดาษแผ่นที่ 2 ระบุ วันที่ 1 มีนาคม 2567 คล้ายกับข้อความสารภาพว่า "ทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุ เอาปืนมาเล่นโชว์กัน แล้วปืนเกิดลั่นใส่พี่ ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก" ตำรวจได้เก็บจดหมาย 2 ฉบับ ไว้ตรวจสอบหาข้อเท็จจริง โดยเฉพาะข้อความบนกระดาษแผ่นแรก เป็นการเขียนพินัยกรรมที่เกิดขึ้นตามประสงค์ของผู้เสียชีวิตจริงหรือไม่
พลตำรวจโท นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 เผยถึงข้อสันนิษฐานเบื้องต้นของคดีไว้ อย่างแรก การฆ่าตัวตาย อย่างที่สอง อาจถูกฆาตกรรม หรือ อุบัติเหตุปืนลั่น เป็นเหตุให้หญิงอายุ 63 ปี เสียชีวิต จากนั้นหญิงคนสนิทยิงปลิดชีพตัวเองหนีความผิด
ส่วนอาวุธปืนขนาด 9 มม. 1 กระบอก ที่พบยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นของใคร ต้องรอตรวจสอบ และเท่าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งในบ้านและนอกบ้าน ยังไม่พบบุคคลที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้อง
