ชาวบ้านขึ้นป้าย "หมาไม่ใช่อาหาร" หลังหมาจรจัดในหมู่บ้านเริ่มหาย สงสัยแคมป์คนงาน เห็นซื้อแต่เครื่องแกง ไม่เคยซื้อเนื้อสัตว์ แถมพบบ่วงกับดักในพื้นที่ด้วย
ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จังหวัดระยอง มีป้ายไวนิลปริศนาไม่รู้ว่าใครเอามาติดไว้ ระบุข้อความว่า "หม่ไม่ใช่อาหาร" เหมือนเป็นป้ายคำเตือน หลังชาวบ้านเริ่มจับสังเกต พบว่าประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา หมาจรจัดที่เคยเห็นในหมู่บ้าน หายตัวไปกว่า 40 ตัว รวมถึงหมาที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ ก็หายไปในเช่นเดียวกัน
ชาวบ้านต่างสันนิษฐานและคาดการณ์ต่าง ๆ นานา คาดว่าเป็นฝีมือของกลุ่มคนงานต่างชาติ หรือไม่ก็เป็นคนสัญจรที่มาหาอาหาร แต่พิรุธค่อนข้างส่อไปที่คนงานต่างชาติ เพราะที่ผ่านมา เคยเห็นแต่ซื้อเครื่องแกง แต่ไม่เคยซื้อเนื้อสัตว์เลยสักครั้ง
นอกจากนี้ชาวบ้านยังเจอหลักฐานเป็นปลอกคอของน้องหมาที่เพิ่งใส่ให้ได้ไม่นานก่อนน้องจะหายตัว แต่กลับไปเจอปลอกคอใกล้ที่ตั้งแคมป์คนงาน
ทั้งนี้ ทีมข่าวพยายามไปสอบถามเจ้าของแคมป์เพื่อให้ได้ชี้แจงข้อพิพาทที่เกิดขึ้น แต่ไม่พบเจ้าตัว มีเพียงคนงานที่ไม่สามารถพูดภาษาไทยได้เลย
ล่าสุด (11 มี.ค.67) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ พบว่าป้ายยังคงติดอยู่เหมือนเดิม ยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ เจ้าของหมู่บ้านดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนเองเป็นผู้ทำป้ายมาติดหน้าหมู่บ้านทั้งหมด เพื่อเตือนชาวบ้านที่เลี้ยงสุนัข หลังจากสุนัขของลูกน้องที่เลี้ยงไว้หายไปรวมถึงสุนัขจรจัดได้หายไปหลายสิบตัว พร้อมกับเปิดภาพกับดักสุนัข ที่ทำจากไม้ไผ่ ที่มีผู้โพสต์ไว้ ยาวประมาณ 1 เมตร ด้านบนถักไม้เป็นบ่วงวงกลม และ บ่วงที่ใช้เส้นเอ็นวางกับพื้นแล้วเศษเนื้อวางล่อให้สุนัขมากินแล้วติดบ่วง โดยพบอยู่ภายในพื้นที่ว่างเปล่าใกล้กับริมถนนติดคูน้ำ โดยภายหลังที่เอาป้ายไปติดไว้หน้าหมู่บ้าน สถาณการณ์ก็ดีขึ้น ยังไม่มีสุนัขหาย
ด้านเจ้นา ผู้ใจบุญที่นำอาหารมาเลี้ยงหมาจร ได้เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า ตนเองเป็นผู้นำอาหารมาเลี้ยงสุนัขจรจัดในพื้นที่หมู่บ้านแห่งนี้หลายปีแล้ว ที่ผ่านมาประมา 1 เดือนที่ สุนัขจรจัดในพื้นที่ได้หายไปกว่า 30 ตัว แต่ก็มีตัวใหม่ซึ่งเป็นลูกสุนัขมาเพิ่มขึ้น จึงเชื่อว่าถูกจับไปกินแน่ เพราะมีคนโทรมาบอกตนว่าเคยไปเจอหมาติดบ่วงหากว่าตายเองก็ต้องเห็นซาก แต่กลับไม่เจอซากสุนัขที่หายไปเลย มั่นใจถูกจับไปกิน ฝากถึงผู้ที่ฆ่าหมาไปกิน จงหยุดเถิด อย่าไปฆ่ามันเลย อาหารอื่นมีให้กินมากมาย มันเป็นบาปและผิดกฎหมาย
เบื้องต้นยังไม่มีหน่วยงานไหนลงมาตรวจสอบ และยังไม่มีคนไปแจ้งความกับเรื่องดังกล่าว
