อิทธิพร ยัน ปฏิบัติตามข้อกฎหมาย ไร้ใบสั่งยุบพรรคก้าวไกล ชี้ คำวินิจฉัยศาล รธน.คือหลักฐานสำคัญ

อิทธิพร ยัน ปฏิบัติตามข้อกฎหมาย ไร้ใบสั่งยุบพรรคก้าวไกล ชี้ คำวินิจฉัยศาล รธน.คือหลักฐานสำคัญ

View icon 62
วันที่ 13 มี.ค. 2567 | 14.13 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ประธาน กกต. ยัน ปฏิบัติตามข้อกฎหมาย ส่งคำร้องยุบพรรคก้าวไกล ไร้ใบสั่ง ชี้ คำวินิจฉัยศาล รธน.คือหลักฐานสำคัญ โทษสูงสุดยุบพรรค ตัดสิทธิไม่เกิน 10 ปี ส่วน สำนวนพรรคภูมิใจไทย อยู่ระหว่างนายทะเบียนรวบรวมหลักฐาน

วันนี้ (13 มี.ค.67) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยถึงกรณีที่ประชุม กกต. มีมติเห็นควร ให้ส่งเรื่องพรรคก้าวไกล ล้มล้างการปกครองไปยังศาลรัฐธรรมนูญว่า กระบวนการพิจารณาเรื่องนี้ ที่ประชุม กกต. มอบหมายให้สำนักงาน กกต. ศึกษาวิเคราะห์ตั้งแต่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา หลังศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยเมื่อ 31 ม.ค. ซึ่งเป็นการศึกษาพิจารณาอย่างต่อเนื่องโดยตลอด กระทั่งถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยอย่างเป็นทางการ 29 ก.พ. และใช้เวลาในการพิจารณาเพิ่มเติม เพื่อมีข้อเสนอแนะ จนเป็นที่มาของผลการประชุม กกต. เมื่อวานนี้ (12 มี.ค.)

ส่วนจะสามารถยืนยันกรอบระยะเวลาได้หรือไม่ หลังพรรคก้าวไกล ตั้งคำถามว่าเร็วเกินไปที่จะตัดสินนั้น นายอิทธิพร ยืนยันว่า เรื่องนี้เป็นการดำเนินการโดยใช้อำนาจหน้าที่ตาม ม.92 ซึ่งใช้คำว่าเมื่อ คณะกรรมการ กกต. มีหลักฐานอันควรเชื่อว่า มีพรรคใดกระทำการอันจะเป็นการล้มล้างการปกครอง ให้เสนอเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา ซึ่งเรามีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมาตั้งแต่ 31 ม.ค. และทางการออกมา 29 ก.พ. ก็ใช้เวลาพอสมควร โดยสิ่งที่เป็นหลักฐานอันเชื่อได้ว่าก็คือ คำวินิจฉัยของศาลนั่นเอง ซึ่งมีรายละเอียด ข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน เอกสารประกอบ คำไต่สวน ถ้อยคำของผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงมีเหตุผลที่เชื่อได้ว่า ควรส่งศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เมื่อ กกต. มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคก้าวไกล โดยทั่วไปจะใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ ในการจัดทำคำร้อง เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญ เสร็จเมื่อไหร่จะก็ยื่นเมื่อนั้น

ส่วนที่โซเชียลตั้งข้อครหาว่า กกต. มีใบสั่ง ยืนยันว่า ที่ทำงานมาก็ทำตามกฎหมาย คนที่จะสั่งให้เราปฎิบัติหน้าที่ คือ กฎหมายที่เขียนเอาไว้ หากมองตามรัฐธรรมนูญ ก็คือ เราเป็นองค์กรอิสระหนึ่ง ที่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม ฉะนั้นหากไม่ทำตามกฏหมาย ถือว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่

เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะมีคิวพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่อยากเรียกว่า เป็นคิว หากมีการเสนอเรื่อง และพิจารณาว่าพรรคการเมืองหรือผู้บริหารพรรคการเมืองใด กระทำการอันอาจจะเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวข้องอันจะนำไปสู่การยุบพรรค ต้องยื่นศาลที่เกี่ยวข้อง เราก็ดำเนินการตามนั้น ไม่ได้มีเฉพาะเจาะจง

ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องการยุบพรรคภูมิใจไทย กรณีรับเงินบริจาค บริษัท บุรีเจริญ คอนตรัคชั่น นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวบพยานหลักฐาน ของ เลขาฯ กกต. ซึ่งเป็นนายทะเบียนพรรคการเมือง ยังไม่ถึงขั้นที่จะสรุปความเห็นและนำเข้าสู่ที่ประชุม กกต.

ส่วนกรณีที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ระบุว่า โทษของการยุบพรรคก้าวไกล อาจร้ายแรงถึงขั้นถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต นายอิทธิพร กล่าวว่า ตาม ม. 92 หาก กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค กกต.สามารถยื่นให้ศาลพิจารณาเพิกถอนสิทธิในการลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ โดยตามกฎหมายแล้วศาลจะสั่งห้ามตั้งพรรคใหม่ ห้ามเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองอื่น ซึ่งตามกฎหมายศาลจะสั่งห้ามไม่ให้เกิน 10 ปี นั่นเป็นโทษสูงสุด ส่วน กกต.จะดำเนินคดีอาญากับพรรคก้าวไกลด้วยหรือไม่ ต้องพิจารณาว่าการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายอื่นด้วยหรือไม่