ผู้เสียหายรวมตัวร้อง ซื้อคอร์สเสริมความงามราคาหลักหมื่นถึงหลักแสน บางคนหน้าพังจนจิตตก สสจ.ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแล้ว
ผู้เสียหายจากการใช้บริการคลินิกเสริมความงาม ที่ตั้งอยู่ชั้น 1 ของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัด สงขลา รวมตัวร้องเรียน หลังจากซื้อคอร์สเสริมความงามราคาหลักหมื่นถึงหลักแสน เข้าใช้บริการแต่กลับพบว่า ผิวพรรณยังเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง ซ้ำร้ายบางคนผิวใบหน้ามีร่องรอยจากการใช้เข็ม จนทำให้จิตตก
ผู้เสียหายคนหนึ่ง เล่าว่า เมื่อเดือน มิ.ย.66 ตนเห็นโฆษณาจากในเฟซบุ๊ก แล้วสนใจเพราะเห็นชื่อแพทย์ ที่รู้จักในวงการเสริมความงาม เมื่อไปถึงคลินิกได้พบกับเซลล์ขายคอร์สเสริมความงาม ชักชวนให้ซื้อคอร์สราคา 50,000 บาท ไปใช้บริการ 4 ครั้ง รวมค่าใช้บริการประมาณ 10,000 บาท ก็เริ่มรู้สึกว่า ใบหน้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเดิม และเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้บริการจากคลีนิกอื่นๆ ในเมืองหาดใหญ่ จึงไปปรึกษากับ สคบ. ทำให้รู้ว่า คลินิกดังกล่าว มีผู้เสียหายยื่นเรื่องร้องเรียนจำนวนมาก และเมื่อ สคบ. ส่งหนังสือให้คลินิกไปพบเพื่อชี้แจง คลินิกก็เพิกเฉย ตนไปยื่นฟ้องต่อศาลคดีผู้บริโภค ล่าสุดศาลพิพากษา ให้ตนชนะคดี แต่เมื่อไปยื่นบังคับคดี คลินิกไม่มีทรัพย์สินใดๆ ทั้งที่มีทุนจดทะเบียนบริษัท 1 ล้านบาท จึงเริ่มพบความไม่ชอบมาพากล จึงพยายามหารวบรวมผู้เสียหายอื่นกว่า 10 คน ที่เป็นลูกค้าของคลินิกแห่งนี้
ด้านผู้เสียหายอีกคน เล่าว่า ซื้อคอร์สเสริมความงามราคา 19,000 บาท ตั้งแต่ปี 64 โดยเซลล์แจ้งว่าไม่มีวันหมดอายุ สามารถเก็บไว้ได้ตลอด แต่เมื่อจะมาใช้บริการกลับบอกว่าเครื่องฉีดเลเซอร์ชำรุด จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ใช้บริการแม้แต่บาทเดียว ทั้งนี้ผู้เสียหายบางคน สูญเสียเงินมากกว่า 200,000 บาท และขณะนี้ก็อยู่ระหว่างการฟ้องร้อง
ขณะที่ผู้เสียหายอีกคน ที่ได้รับความเสียหายบริเวณใบหน้ารุนแรง บอกว่า หลังจากตนใช้บริการทำหน้าใส รักษาฝ้าและหลุมสิว ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 24 ก.พ.67 เป็นการใช้บริการครั้งที่ 9 ปรากฎว่าบริเวณใบหน้ามีร่องรอยของเข็มขึ้นเต็มใบหน้า บางจุดช้ำแดง ตอนนั้นจิตตกมาก สอบถามไปได้คำตอบว่า หลังการใช้บริการอาจจะมีอาการข้างเคียง 4-5 วัน ตนได้ส่งภาพใบหน้าที่มีตุ่มและผื่นแดงไปให้คลินิกตรวจสอบ สุดท้ายมีการติดต่อให้ไปรับยาจากคลินิก แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น และเมื่อสอบถามว่า ใช้ตัวยาอะไรกับใบหน้าของตน เพื่อจะไปรักษากับแพทย์ที่คลินิกอื่น แต่ไม่ได้รับคำตอบ และล่าสุดแพทย์ผิวหนังวินิจฉัยว่า ต้องใช้เวลาให้ตัวยาสลาย แล้วตุ่มบนใบหน้าค่อยๆ ยุบไปเอง ล่าสุดคลินิก ได้ติดต่อมาแล้วว่าจะให้รับผิดชอบอย่างไรบ้าง
ทางด้าน นพ. สงกรานต์ ไหมชุม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบคลินิกที่ถูกร้องเรียนแล้ว ซึ่งมีใบอนุญาตติดแสดงไว้บนกระจกชัดเจน ขณะที่ประตูกระจกและรอบๆ มีการติดป้ายประกาศว่า ปิดชั่วคราว
