บาร์พัทยาค้ากามเด็กสาว ตำรวจ ปคม.รวบ 3 ผู้ต้องหา ยังปิดปากเงียบ

บาร์พัทยาค้ากามเด็กสาว ตำรวจ ปคม.รวบ 3 ผู้ต้องหา ยังปิดปากเงียบ

View icon 190
วันที่ 14 มี.ค. 2567 | 17.51 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจ ปคม. บุกรวบ 3 ผู้ต้องหา เปิดบาร์พัทยาค้ากามเด็กสาว อายุต่ำกว่า 18 ปี โดนอ่วม 10 ข้อหา เจ้าตัวยังปิดปากเงียบ

บาร์พัทยา (14 มี.ค.2567) ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) นำโดย พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ร่วมกันจับกุม นายสมชายฯ อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1019/2567 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2567 บริเวณลานจอดรถห้างแห่งหนึ่ง ถนนพัทยาเหนือ ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี, นายเศรษฐาฯ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1020/2567 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2567 บริเวณถนนเลียบชายหาด ตรงข้าม สภ.เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี  และ น.ส.ณัฐชาฯ อายุ 46 ปี ผู้ต้องหาที่ 3 ตามหมายจับศาลอาญาที่ 1021/2567 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2567  ที่บาร์แห่งหนึ่ง ม.9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ในฐานความผิด
(1)  สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปหรือโดยสมาชิกขององค์กรอาชญากรรมเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีและแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบทางเพศในรูปแบบอื่น โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปีและได้กระทำความผิดตามที่ได้ตกลงกันไว้
(2) ร่วมกันค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยกระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี
(3) ร่วมกันค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบทางเพศในรูปแบบอื่นโดยกระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี
(4) ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และไม่ว่าการกระทำต่าง ๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักรซึ่งเป็นการกระทำแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี 
(5) ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ส่อไปหรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณีแม้บุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตามและไม่ว่าการกระทำต่าง ๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร
(6) ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ส่อไปหรือชักพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิงแม้ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมก็ตามซึ้งเป็นการกระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี
(7) ร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือชักพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิงแม้ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม
(8) ร่วมกันกระทำด้วยประการใด  โดยการช่วยเหลือ ให้ความสะดวก หรือคุ้มครองการค้าประเวณีของผู้อื่น และรับประโยชน์ไม่ว่ารูปแบบใดจากการค้าประเวณีซึ่งผู้อื่นหรือจากผู้ซึ่งค้าประเวณี 
(9) ร่วมกันพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจารโดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย
(10) ร่วมกันชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิดและกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจารเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด

สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า บาร์แห่งหนึ่ง น่าจะมีการกระทำความผิดโดยนำเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีมาแสวงหาประโยชน์ จากการเป็นเด็กนั่งดริ้ง และให้ลักลอบขายบริการทางเพศให้กับลูกค้าโดยให้ออกไปมีเพศสัมพันธ์ที่โรงแรมภายนอกร้าน ซึ่งจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าบุคคลตามที่ได้แจ้งเบาะแสไว้ดังกล่าว คือ น้องเอ(นามสมมุติ) มีอายุ 17 ปี และเข้าทำงานอยู่ที่บาร์แห่งหนึ่งจริงระหว่างเดือนธันวาคม 2566 ถึง เดือนกุมภาพันธ์ 2567 จึงได้เข้าทำการช่วยเหลือ น้องเอ มาจากบ้านพักและพาเข้าสู่กระบวนการสัมภาษณ์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ซึ่งผลจากการสัมภาษณ์คัดแยกดังกล่าว ทีมสหวิชาชีพมีความเห็นร่วมกันว่า น้องเอ เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยทราบข้อมูลจากการสัมภาษณ์และการสอบสวนปากคำ น้องเอ ผู้เสียหายว่าระหว่างเดือนธันวาคม 2566 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2567 มาทำงานเป็นพนักงานนั่งดริ้งอยู่ที่ร้านดังกล่าวจริง โดยมีหน้าที่ไปนั่งดื่มกินสุราและดูแลลูกค้า โดยลูกค้าสามารถกอด จูบ ลูบ คลำ ผู้เสียหายได้ โดยร้านจะทำการขายดริ้งให้กับลูกค้า ในราคา 150 บาท โดยแบ่งค่าคอมมิชชันจากดริ้งให้พนักงานจำนวน 40 บาท และผู้เสียหายยังเคยขายบริการทางเพศให้กับลูกค้า โดยทางร้านรู้เห็นและเรียกเก็บเงินค่าเสียหายเวลาจากลูกค้า จำนวน 500 บาท โดยที่บาร์มีนายสมชายฯ หรือเต๊ ผู้ต้องหาที่ 1 เป็นเจ้าของ และมีนายเศรษฐาฯ หรือส้ม ผู้ต้องหาที่ 2 เป็น ผู้จัดการ และพนักงานแคชเชียร์ และมี น.ส.ณัฐชาฯ หรือนัท ผู้ต้องหาที่ 3 เป็นคนเชียร์แขกและเป็นคนแนะนำโรงแรมให้กับลูกค้าพร้อมกับเดินพาไปส่งที่โรงแรมซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียงร้าน โดยผู้ต้องหาทั้งสามแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณีของผู้เสียหายร่วมกัน จึงได้ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสามคนดังกล่าวไว้ในความผิดดังกล่าวข้างต้น

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปคม. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ร่วมกันจับกุม นายสมชายฯ ได้ที่บริเวณลานจอดรถของห้าง ถนนพัทยาเหนือ ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี  จับกุมนายเศรษฐาฯ ได้ที่บริเวณถนนเลียบชายหาด ตรงข้าม สภ.เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และจับกุมน.ส.ณัฐชาฯ ได้ที่หน้าร้านแห่งหนึ่ง ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น นายสมชายฯ หรือเต๊ ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การปฏิเสธโดยอ้างว่าผู้เสียหายเพียงมาเที่ยวที่ร้าน นายเศรษฐา หรือส้ม ผู้ต้องหาที่ 2 และ น.ส.ณัฐชา หรือนัท ผู้ต้องหาที่ 3 ไม่ให้การใด ๆ ชุดจับกุมจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคม.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป