เสี่ยเต็นท์รถ แจ้งความพยาบาลสาวแล้ว หลังหลอกให้รักแล้วยืมเงินสูญ 38 ล้าน ตัดพ้อเหมือนเลี้ยงงูเห่าไว้ข้างตัว

เสี่ยเต็นท์รถ แจ้งความพยาบาลสาวแล้ว หลังหลอกให้รักแล้วยืมเงินสูญ 38 ล้าน ตัดพ้อเหมือนเลี้ยงงูเห่าไว้ข้างตัว

View icon 157
วันที่ 15 มี.ค. 2567 | 15.03 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เสี่ยเต็นท์รถ แจ้งความพยาบาลสาวแล้ว หลังหลอกให้รักแล้วยืมเงินสูญ 38 ล้าน ตัดพ้อเหมือนเลี้ยงงูเห่าไว้ข้างตัว เผย หลังเกิดเรื่องได้ขอโทษภรรยากับลูกๆทั้งหมดแล้ว ขณะที่ ภรรยาก็ปลอบและให้กำลังใจ โดยมองว่าเป็นเวรกรรม

จากกรณีที่นายวาสิตย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี เจ้าของเต็นท์รถยนต์มือสอง ย่านรัตนธิเบศร์ นำเอกสารพร้อมหลักฐานการโอนเงินเดินทางเข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.อภิศักดิ์ โชติกเสถี ผกก.สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังถูกพยายาลสาวคนสนิท อายุ 39 ปี สังกัดโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านพัฒนาการ นำสำเนาบัตรประชาชนของผู้ป่วยในโรงพยาบาล จำนวน 680 คน มาทยอยขอกู้เงินไปตั้งแต่ปี 63 จนทำให้สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

วันที่ 15 มี.ค.67 เมื่อเวลา 11.30 น. ที่สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายวาสิตย์ เจ้าของเต็นท์รถยนต์มือสอง ผู้เสียหาย ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด พร้อมกับหอบหลักฐาน เป็นสำเนาบัตรประชาชนจำนวน 680 ใบ พร้อมสลิปการโอนเงิน เพื่อให้ดำเนินคดีกับพยาบาลสาวคนดังกล่าวที่แอบอ้างนำสำเนาบัตรประชาชนของคนอื่นมายื่นขอกู้เงิน ไป จนทำให้นายวาสิตย์ สูญเงินไปกว่า 38 ล้านบาท และต้องการดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง
  
นายวาสิตย์ กล่าวว่า วันนี้ได้นำหลักฐานการกู้ยืมเงินทั้งหมดมาเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.ธีรนันท์ พยาบาลสาวรายนี้ หลังตนมาทราบความจริงในภายหลังว่า พยาบาลสาวรายนี้ได้นำหลักฐานสำเนาบัตรประชาชนของผู้อื่นมากู้ยืมตนจากตนไป และเมื่อตนได้ทวงถามถึงเงินที่กู้ยืมไปเพื่อจะนำมาใช้ในธุรกิจกลับถูกปฎิเสธและขาดการติดต่อไปจากพยาบาลสาวคนดังกล่าว จึงทำให้ตนต้องเดินทางมาเข้าแจ้งความอีกครั้งในวันนี้เพื่อดำเนินคดีกับพยาบาลสาวในข้อหาฉ้อโกงโดยใช้เอกสารผู้อื่นหรือปลอมแปลงทำการกู้ยืมเงินไปจากตน

นายวาสิตย์ กล่าวอีกว่า หลังตกเป็นข่าวไปแล้ว ตนยังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ กลับมาจากพยาบาลสาวรายนี้เลย ซึ่งหากมีการติดต่อกลับมาเพื่อจะพูดคุยกันถึงยอดเงินที่กู้ไปจากตน ตนก็พร้อมเจรจา ยังให้โอกาสอยู่ และทางพ่อแม่เขาก็ทราบเรื่องทั้งหมดแล้วพร้อมกับขอโทษตนมา ส่วนตนก็ถือว่าหมดเวรหมดกรรมต่อกัน ซึ่งในตอนนี้ตนทราบมาว่ามีผู้เสียหายที่ถูกนำสำเนามาใช้กู้เงินจากตนที่ทราบข่าวได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพยาบาลสาวรายนี้ในพื้นที่ต่างๆบ้างแล้ว

นายวาสิตย์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเรื่องตนได้ขอโทษภรรยากับลูกๆทั้งหมดแล้ว ภรรยาก็ปลอบและให้กำลังใจ เขามองว่ามันเป็นเวรกรรมของตนเอง ซึ่งถ้าหากตนเคลียร์เรื่องได้ก็เคลียร์ให้มันจบๆ ไป และตนก็พร้อมที่จะจบความสัมพันธ์กับพยาบาลสาวรายนี้อย่างแน่นอน เพราะจากช่วงเวลาที่คบหากันมาหลายปี ตนเหมือนเลี้ยงงูเห่าไว้ข้างตัว ที่ตนออกมาเปิดเผยเรื่องราวนี้ก็เพราะต้องการให้สังคมรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมการโกงด้วยการนำสำเนาเอกสารของผู้อื่นมาใช้โดยที่เจ้าของบัตรตัวจริงไม่รู้เรื่องมาก่อน ตนจึงกลัวว่าเขาจะเอาเอกสารชุดนี้ทั้งหมดไปหลอกกู้เงินจากใครต่ออีกหรือไม่

นอกจากนี้ หลังเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับพยาบาลสาวรายนี้แล้ว ตนจะเดินทางไปพบกับทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความคนดัง หลังจากที่ได้มีการพูดคุยรายละเอียดเพื่อขอให้เข้ามาช่วยเป็นทนายว่าความในคดีของตนต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง