รู้ผลภายใน 3 วัน เหตุเพลิงไหม้เรือหลวงคีรีรัฐ

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ผบ.ทร. ยืนยัน ปืนเรือหลวงชลบุรี ลั่นใส่ เรือหลวงคีรีรัฐ หากกำลังพลผิดพลาด ต้องมีคนรับผิดชอบ สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาสาเหตุ รายงานผลภายใน 3 วัน

รู้ผลภายใน 3 วัน เหตุเพลิงไหม้เรือหลวงคีรีรัฐ
พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงเหตุเรือหลวงชลบุรี ทำปืนลั่นใส่เรือหลวงคีรีรัฐ ว่าขอให้รอผลสรุปภายใน 3 วัน ส่วนกรณีเมื่อวานนี้ เรือหลวงชลบุรีได้เคลื่อนออกจากท่า เพื่อไปเคลียร์กระสุนปืนที่ยังค้างอยู่ ซึ่งภายหลังเคลียร์เสร็จแล้ว ก็กลับเข้าสู่ท่าที่เดิม พร้อมแจงปืนมีอายุการใช้งานมานาน ซึ่งหลังจากไปฝึกยิง ก็ขัดลำกล้องแล้วครั้งหนึ่ง ก็พยายามซ่อม จนสามารถใช้การได้ จึงได้ทำการฝึกต่อ จนกระทั่งกลับมาขัดลำกล้องอีก

ทางเจ้าหน้าที่ประจำเรือก็ได้พยายามซ่อมแซม แต่เป็นช่วงเวลาใกล้เย็น จึงได้นำเรือเข้าฝั่ง โดยวางแผนว่าในช่วงเช้าจะส่งทหารช่างไปซ่อมดูแล แต่ดันมาเกิดเหตุเสียก่อน

เมื่อถามว่า ยืนยันหรือไม่ว่าเรื่องนี้จะต้องมีผู้รับผิดชอบ ผู้บัญชาการทหารทหารเรือ กล่าวว่า ถ้ามีความผิดพลาดที่เกิดจากคน จะต้องมีผู้รับผิดชอบ

เมื่อถามอาการของผู้บาดเจ็บเป็นอย่างไร ผู้บัญชาการทหารเรือ บอกว่า ไม่น่าห่วง เป็นการสูดอากาศร้อนและควันไฟเข้าไปเท่านั้น ทั้งนี้จากรายงานล่าสุด มีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ทั้งหมด 14 นาย แพทย์อนุญาตให้กลับแล้ว 8 นาย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างติดตามอาการและพักรักษาตัว ถือว่าโชคดีแล้ว

โรม ยันไม่ได้มาจับผิด เข้าใจอยู่ในช่วงลำบาก
ด้าน นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ พร้อมกรรมาธิการ เดินทางเข้าพบ ผู้บัญชาการกองทัพเรือ เพื่อหารือถึงแนวทางการทำงาน

นายรังสิมันต์ มองว่า สภาผู้แทนราษฎร มีความจำเป็นต้องเข้าใจการทำงานของกองทัพเรือ ขณะเดียวกันกองทัพเรือ ก็จะมีโอกาสได้เข้าใจการทำงานของสภาผู้แทนราษฎรด้วย ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างบรรยากาศที่ดีในด้านต่าง ๆ เพราะที่ผ่านมามีข้อถกเถียงหลายเรื่อง ทั้งการจัดซื้ออาวุธ รวมถึงเรื่องเรือฟริเกต เมื่อไม่ผ่านความเห็นชอบจากกรรมาธิการแล้ว ก็ต้องมีการหารือกันว่าจะมีแนวทางอย่างไรต่อไป

เช่นเดียวกับเหตุการณ์กระสุนปืนขนาด 76 มม. ของเรือหลวงชลบุรี เกิดการขัดข้องและติดค้างอยู่ในตัวปืน ลั่นจนไฟไหม้เมื่อวานนี้ เชื่อว่ากองทัพเรือก็คงไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ก็ต้องหยิบยกมาหารือกัน ว่ามีส่วนไหนที่จะสนับสนุนไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก พร้อมย้ำว่ากรรมาธิการ ต้องการสร้างบรรยากาศแห่งการพูดคุยในการแก้ไขปัญหา แม้จะเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้ แต่สามารถร่วมมือกันทำให้กองทัพเรือมีความเข้มแข็ง มีประสิทธิภาพต่อไป

ยืนยันว่าไม่ได้มาจ้องจับผิดกองทัพ แต่จะสอบถามในสิ่งที่สังคมอยากรู้ ยอมรับว่ามีหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับกองทัพ เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ ส่วนเรื่องมาตรฐานการทำงาน และประสิทธิภาพของกองทัพ ขอไม่แสดงความเห็น จนกว่าจะได้ข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อน