สนามข่าว 7 สี - ผ่านมาจะ 2 เดือนแล้ว กับความพยายามค้นหาความจริง ปมการเสียชีวิตของ "พริตตีโยโกะ" ที่แม่ยังติดใจสงสัยเชื่อว่าเป็นเหตุฆาตกรรม ไม่ใช่การฆ่าตัวตาย ซึ่งเมื่อวานนี้ก็มีการเรียกประชุมเพื่อคุยถึงผลตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ ได้ข้อยุติว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่ก็ยังประเด็นที่แม่ยังติดใจสงสัยอยู่
ก่อนจะเข้าไปฟังการประชุม แม่ของโยโกะ พริตตีสาวที่เสียชีวิตปริศนาภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านเอกมัย เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว บอกกับผู้สื่อข่าวถึงปมเหตุที่ติดใจสงสัยว่ามาจากผลตรวจสอบถุงบรรจุสารไซยาไนด์ ที่ไม่พบ DNA ของลูกสาว และผู้ต้องสงสัยฝ่ายชาย ส่วนตัวจึงยังเชื่อว่าคดีนี้เป็นคดีฆาตกรรม
ส่วนทาง พลตำรวจตรี วิทวัส ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ก็ได้เรียกพนักงานสอบสวน สน.คลองตัน ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ มาประชุม และเชิญครอบครัวของ "พริตตีโยโกะ" ร่วมรับฟังผลการตรวจพิสูจน์ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งก็ใช้เวลาอยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนจะออกมาเปิดเผยว่า พยานหลักฐานทางคดีในชั้นพนักงานสอบสวนเป็นที่ยุติ เชื่อได้ว่าไม่มีบุคคลใดทำให้ "พริตตีโยโกะ" เสียชีวิต หลังพบสารไซยาไนด์ในร่างกาย ตามผลชันสูตรของนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการนำผลชันสูตรพลิกศพดังกล่าว ส่งให้พนักงานอัยการนำไปใช้ไต่สวนในชั้นศาล แต่ก็ไม่ตัดสิทธิของครอบครัวที่ยังสามารถดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตได้ หากมีพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ส่วนแม่ของ "พริตตีโยโกะ" บอกว่าคลายข้อสงสัยไปบางส่วน แต่ก็ยังติดใจเรื่องที่พบขวดใส่สารพิษไซยาไนด์ในห้องนอน แม้ผลตรวจสอบจะไม่พบรอยนิ้วมือ หรือ DNA ใด ๆ ก็ตาม ซึ่งขัดกับความเป็นจริง ที่อย่างน้อยควรจะมีรอยนิ้วมือของลูกบนขวด หากลูกจะทำร้ายตัวเอง
ขณะที่ ทนายความของครอบครัวนี้ บอกว่า หลังจากนี้ต้องไปหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ รวมถึงความพยายามในการหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมตามข้อสงสัย เพื่อใช้สิทธิตามกฎหมายเหมือนที่ตำรวจบอก ส่วนเรื่องแช็ตที่ฝ่ายชายเคยพูดคุยเชิงกดดัน จะใช้ดำเนินคดีได้หรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่ต้องกลับไปพิจารณาเช่นกัน