ครูเก๋ แจงรับพลาดไม่เห็นนร. จมน้ำ หลังแม่ร้องผ่าน เพจสายไหมต้องรอด

ครูเก๋ แจงรับพลาดไม่เห็นนร. จมน้ำ หลังแม่ร้องผ่าน เพจสายไหมต้องรอด

View icon 187
วันที่ 20 มี.ค. 2567 | 07.26 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (20 มี.ค. 67) จากกรณีเมื่อวันที่ 12 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา นางสาวธีรชา และสามี ได้ร้องเรียนผ่านเพจสายไหมต้องรอด ว่าลูกสาวอายุ 3 ขวบ ได้เข้าเรียนว่ายน้ำ แต่เกิดจมน้ำอาการสาหัส ระหว่างที่กำลังเรียนว่ายน้ำอยู่ที่สระว่ายน้ำแห่งหนึ่ง

โดยนางสาว ธีรชา ได้เล่าว่า ในวันนั้นมีนักเรียน 8 คน โดยที่มีครูสอนแค่คนเดียว คือครูเก๋และไม่มีอุปกรณ์เซฟตีใดๆ ซึ่งในระหว่างที่ครูกำลังดูเด็กคนอื่นอยู่ ๆ ลูกสาวของตนก็ได้เดินไปที่สระผู้ใหญ่ โดยที่ไม่มีใครเห็น ก่อนที่จะจม และลอยขึ้นมาอยู่เหนือผิวน้ำทำให้ครูเข้าไป CPR พร้อมกับเรียกรถพยาบาลมารับ โดยครูก็แจ้งว่าลูกสาวของตนเองจมน้ำ โดยน้องต้องพักรักษาตัวที่ห้องฉุกเฉิน 4 วัน

เนื่องจากมีภาวะน้ำท่วมปอด และสมองขาดออกซิเจน หายใจเองไม่ได้ ในระหว่างที่ลูกสาวพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ตนก็ได้ไปสอบถามความรับผิดชอบ แต่ก็ถูกเทศบาล และโรงเรียนโยนความรับผิดชอบกันไปมา พอไปถามเรื่องกล้องวงจรปิดก็บอกว่ากล้องเสีย ตลอดเวลาที่ผ่านมาทั้งสองฝ่ายก็ได้ ขอโทษ และให้เงินมา 2,000 บาท เท่านั้น

ทางด้านครูเก๋ เล่าว่า ในช่วงวันที่ทำการสอนนักเรียนว่ายน้ำจะมีนักเรียนแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ซึ่งกลุ่มแรกจะอยู่ในห้องเรียนที่เป็นห้องกระจก อีกกลุ่มคือกลุ่มที่ลงสระว่ายน้ำซึ่งกลุ่มของน้องได้ลงเรียนในสระพร้อมกับครู แต่ระหว่างที่ทำการสอน ตนเองได้หันไปเห็นว่าน้องนอนคว่ำหน้าอยู่บนน้ำจึงได้ดึงตัวขึ้นมาแล้วทำการปฐมพยาบาล CPR ก่อนที่จะรีบเรียกให้โทรตามสายด่วน 1669 เพื่อให้มารับตัวไปที่โรงพยาบาลแต่รู้สึกว่ามีความล่าช้าจึงได้ประสานหน่วยงานอื่นให้รีบนำรถมานำเด็กไปส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด

โดยเรื่องนี้ตนเองยอมรับว่าตนประมาทเนื่องจากหลังจากสอนว่ายน้ำแล้วได้ให้น้องเล่นน้ำต่อโดยที่กำลังหันไปดูเด็กอีกกลุ่มที่กำลังทำการเรียนการสอนอยู่ แต่ตนเองก็ไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเพราะทราบดีว่าลูกใคร ใครก็รักลูกเรา เราก็รัก

ทั้งนี้ทางผู้สื่อข่าวได้มีการเข้าตรวจตรวจสอบที่สระว่ายน้ำดังกล่าวพบว่าเป็นสระว่ายน้ำที่แบ่งออกเป็นสองส่วนคือของเด็กและของผู้ใหญ่โดยในส่วนของเด็กจะมีน้ำลึกอยู่ที่ประมาณ 70 เซนต์หรือต้นหน้าขาของผู้ใหญ่ซึ่งก็ทำให้เพียงพอที่จะเกิดเหตุจมน้ำดังกล่าวได้

ส่วนทางคดีทางเจ้าหน้าที่ตร. ได้มีการประสานติดตามผลสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งจะต้องมีการรอผลผลการรับรองจากแพทย์ว่ามี อาการป่วยในขั้นใดก่อนจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกันต่อไป