ยักยอกเงินวัดป่า ศาลพิพากษาจำคุกอดีตพระคม 468 ปี

ยักยอกเงินวัดป่า ศาลพิพากษาจำคุกอดีตพระคม 468 ปี

View icon 145
วันที่ 20 มี.ค. 2567 | 15.00 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ยักยอกเงินวัดป่าเกือบ 300 ล้าน หลักฐานมั่นคง นำทรัพย์สินไปซุกซ่อนไว้ตามสถานที่ต่างๆ ในวัด และขนย้ายทรัพย์ออกไปจากวัด ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษาจำคุก อดีตพระคม 78 กระทง รวม 468 ปี แต่ตามกฎหมายให้จำคุกสูงสุดได้ 50 ปี

วันนี้ (20 มี.ค.67) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาในคดีที่อดีตพระคม อดีตเจ้าอาวาส วัดป่าธรรมคีรี กับพวกรวม 9 คน ในข้อหาร่วมกันกระทำความผิดยักยอกทรัพย์ของวัด เป็นเงินกว่า 299 ล้าน

สำหรับคดีนี้อัยการฟ้องว่า นาย ว. กับพวกรวม 9 คน ซึ่งเป็นเจ้าอาสาส พระลูกวัด และฆราวาส เป็นจำเลย ในข้อหาร่วมกันกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพย์สินของวัด ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าอาวาสวัด มีฐานะเป็นเจ้าพนักงานของรัฐตามกฎหมาย ร่วมกับจำเลย ปฏิบัติหน้าที่โดยมีชอบและโดยทุจริต เบียดบังเงินสดที่มีผู้บริจาคให้แก่วัด โดยนำเงินเก็บรักษาไว้ที่กแล้วยินยอมให้จำเลยที่เป็นพระลูกวัดนำเข้าฝากในบัญชีเงินฝากธนาคารชื่อบัญชีจำเลยที่ 1 และบุคคลอื่นที่มีเงื่อนไขให้จำเลยที่ 3 เบิกถอนได้แต่เพียงผู้เดียว รวม 76 ครั้ง นอกจากนี้ยังนำส่งมอบให้จำเลยที่ 3 เก็บไว้เป็นเงินสดในที่พักอาศัย ซึ่งตำรวจตรวจยึดได้เป็นเงิน 51,434,17 บาท และมีทรัพย์สินบางส่วนขนสารถตู้ออกไปซุกช่อนไว้ที่อื่นนอกวัด โดยมีบางส่วนยังคงซุกซ่อนอยู่ในกุฏิของจำเลย รวมเงินสดและทรัพย์ที่ถูกประทุษร้ายเป็นจำนวน 1,455 รายการ รวมเป็นเงินประมาณ 299.5 ล้านบาท

แม้จำเลยที่ 1-3 จะยกข้อต่อสู้ว่าเป็นเงินส่วนตัวของจำเลยที่ 2 แต่ข้ออ้างดังกล่าวปราศจากพยานหลักฐานอื่นสนับสนุน พยานหลักฐานที่โจทก์ชี้ช่องมีน้ำหนักมั่นคงฟังยุติได้ว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ค.66 อันเป็นวันก่อนที่จำเลยที่ 1 ลาสิกขา จำเลยที่ 4 และที่ 8 ร่วมกันขนย้ายทรัพย์สินของกลางดังกล่าวที่เก็บอยู่ในวัด นำออกไปซุกซ่อนไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ ภายในวัด ตามที่จำเลยที่ 1 และที่ 2 สั่งการ แล้วจำเลยที่ 4 และที่ 8 ช่วยกันขนย้ายทรัพย์สินดังกล่าวเปลี่ยนที่ซุกซ่อนเร้นครอบครองแทน เพื่อหลบเลี่ยงไม่ให้คณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินของวัดหรือเจ้าหนักงานตำรวจตรวจค้นพบ

พิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 กระทงละ 6 ปี รวม 78 กระทง คงจำคุก 468 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 กระทงละ 4 ปี รวม 78 กระทง คงจำคุก 312  ปี จำคุกจำเลยที่ 3 กระทงละ 4 ปี รวม 77 กระทง คงจำคุก 328 ปี จำคุกจำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 8 คนละ 3 ปี 4  เดือน จำคุกจำเลยที่ 5-7 และจำเลยที่ 9  จำคุกคนละ 3 ปี

อย่างไรก็ตาม การเสนอแนวทางซี้ช่องพยานหลักฐานและนำสืบของจำเลยที่ 4-9  เป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78  ให้คนละ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 8 คนละ 2 ปี 2 เดือน 20 วัน คงจำคุกจำเลยที่ 5 จำเลยที่ 6 จำเลยที่ 7  และจำเลยที่ 9 คนละ 2 ปี สำหรับจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วให้จำคุกคนละ 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 (3) ข้อหาอื่นสำหรับจำเลยที่ 4 ถึงที่ 9 ให้ยกฟ้อง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง