ตาวัย 60 ปี เครียดปีนเสาวิทยุ ประชดเจ้าหน้าที่อำเภอทำงานล่าช้า หลังร้องขอให้ช่วยเหลือลูกสาวถูกสามีต่างชาติทำร้ายร่างกาย
วันนี้ (21 มี.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธวัช จรัสวรภัทร นายอำเภอเชียงคำ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ในอำเภอว่ามีชายสูงวัยรายหนึ่งขึ้นไปปีนเสาวิทยุของอำเภอที่สูงเกือบ 40 เมตร โดยมีการร่อนจดหมายลงมาให้เจ้าหน้าที่ ทั้งนี้จึงได้เข้าพื้นที่ทันทีพร้อมด้วย พ.ต.อ.สาคร สุขภูมิพงศ์ ผกก.สภ.เชียงคำ พ.ต.ท.จีรวัฒน์ ปานสมบัติ รอง.ผกก.สภ.เชียงคำ เจ้าหน้าที่จาก รพ.เชียงคำและกู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจจุดเชียงคำ
ที่เกิดเหตุพบ ด.ต.ชัยวุฒิ ดวงสิทธิ์ เจ้าหน้าที่ชุดมวลชนสัมพันธ์ สภ.เชียงคำ กำลังทำการเกลี้ยกล่อมอยู่ ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือนายฮอด อายุ 60 ปี ซึ่งกำลังยืนอยู่ปลายเสาวิทยุและไม่มีทีท่าว่าจะลงมา ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยังญาติของผู้ก่อเหตุให้มาเกลี้ยกล่อมทันที
โดยเวลาต่อมาบุตรสาวและหลานสาวได้เดินทางมาถึงและพูดเกลี้ยกล่อมให้นายฮอดสงบสติอารมณ์จนเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงผู้ก่อเหตุจึงได้ลงมาจากเสาวิทยุ ก่อนที่นายอำเภอพร้อมทั้ง ผกก.สภ.เชียงคำ จะได้พาตัวผู้ก่อเหตุไปพูดคุยและสอบถามเพิ่มเติม
โดยนายธวัช ได้กล่าวว่า จากการสอบถามผู้ก่อเหตุนั้นได้ความประมาณว่าลูกสาวคนโตของผู้ก่อเหตุที่ชื่อ น.ส.นงนุช อายุ 26 ปี ได้ไปกินอยู่กับสามีชาวฝรั่งเศส และน.ส.นงนุช ติดต่อกลับมาว่าถูกสามีทำร้ายร่างกาย รวมถึงเก็บเอกสารของ
น.ส.นงนุช ไว้กับตัวทั้งหมด
ทำให้ตัวของนายฮอดเกิดความสงสารและความเครียดในเวลาเดียวกัน ก่อนที่จะเดินทางไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพะเยาเพื่อติดต่อขอให้ช่วยเหลือน.ส.นงนุช ซึ่งหลังจากนั้นผ่านมาอีกหลายวันเจ้าตัวได้ไปติดต่ออีกครั้งแต่กลับได้คำตอบที่ไม่ชัดเจนและถูกบอกให้เดินทางมายังที่ว่าการอำเภอเชียงคำ เพื่อยื่นเรื่องการช่วยเหลือ จนล่าสุดวันนี้เข้ามาติดต่อกับเจ้าหน้าที่บนอำเภอซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังจะค้นหาข้อมูลให้แต่เมื่อเจ้าหน้าที่หันมาอีกที่ผู้ก่อเหตุก็ไม่อยู่แล้วทราบอีกทีก็พบว่าปีนเสาวิทยุเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกสาวตัวเอง
นายธวัช กล่าวต่ออีกว่า หลังจากทราบเรื่องก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายทำการค้นข้อมูลที่ทางผู้ก่อเหตุได้ยื่นเรื่องกับศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดและพบว่าเรื่องราวที่ยื่นนั้นทางสถานกงสุลฝรั่งเศสประจำประเทศไทยแล้วเมื่อวันที่ 15 มี.ค. 67 ซึ่งรอการประสานอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
ทั้งนี้เมื่อตนเองอ่านเอกสารให้ตัวผู้ก่อเหตุได้ทราบก็เริ่มที่จะผ่อนคลายอาการความเครียดลงไปรวมทั้งตนเองรับปากว่าทางตนเองและทางเจ้าหน้าที่อำเภอจะยินดีช่วยเหลือย่างเต็มที่ในเรื่องทีเกิดขึ้นนี้ด้วย
ล่าสุดทางนายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าฯพะเยา เผยว่า หลังจากที่ได้ทราบเรื่อง จะประสานไปยังศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพื่อขอทราบความคืบหน้า เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือลูกสาวผู้ก่อเหตุได้เดินทางกลับบ้านโดยเร็ว
ส่วนเรื่องที่ถูกกล่าวอ้างว่าล่าช้านั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำตามขั้นตอนทุกอย่างและขอให้ตัวของนายฮอดมั่นใจได้ว่าเจ้าหน้าที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่เช่นกัน
