สืบนครบาลรวบไฮโซโจ นักธุรกิจชื่อดัง หลังถูกสาวแจ้งความข่มขืน-บุกรุก ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ อ้างฝ่ายหญิงยินยอม ปกปิดแฟนสาวไม่ให้รู้ว่ามีโลกใบที่ 3 ตร.ยังไม่ปักใจเชื่อเพราะเหยื่อสภาพร่างกายยังไม่พร้อมให้การ
ตำรวจชุดสืบนครบาล ติดตามจับกุมนายวชิรวิชญ์ หรือไฮโซโจ นักธุรกิจชื่อดัง อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.277/2567 ลงวันที่ 20 มี.ค. 67 ข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยจับกุมตัวได้ที่คอนโดหรูย่านเพลินจิต กรุงเทพฯ
คดีนี้นางสาวเอ อายุ 29 ปี ซึ่งตกเป็นเหยื่อคดีข่มขืนยังพักรักษาในห้อง ICU หลังกระโดดตึกจากชั้น 4 เพราะทนแบกรับความรู้สึกที่ถูก “ไฮโซโจ” กระทำไม่ได้ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มี.ค.67 “ไฮโซโจ” ที่มาเปิดร้านขายกัญชาอยู่ข้างบ้านที่นางสาวเอพักอาศัย ขณะมึนเมาสุราได้บุกเข้าไปในบ้านและเข้าไปข่มขืนนางสาวเอ หลังเกิดเหตุผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ ต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ได้ออกหมายจับไฮโซโจ กระทั่ง พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สืบทราบว่าไฮโซโจ พักอาศัยอยู่กับแฟนสาวในคอนโดหรูแห่งหนึ่ง จึงนำกำลังไปซุ่มรอจับกุม และสามารถจับกุมได้ที่ล็อบบีของคอนโดฯ
ในชั้นจับกุมผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า เป็นเจ้าของธุรกิจชื่อดัง จบการศึกษาจากต่างประเทศ ส่วนทางคดียืนยันไม่ได้ข่มขืนเพราะผู้เสียหายยินยอมมีสัมพันธ์ลึกซึ้งเอง ส่วนแฟนสาวที่คบอยู่ปัจจุบันนี้ไม่ทราบว่าตนมีโลกใบที่ 3 หลังจับกุมตัวได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย
พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะมีความขัดแย้งกับคำให้การและพยานหลักฐานหลายประเด็น เพราะในตอนนี้ผู้เสียหายที่ตกจากตึกชั้น 4 สภาพร่างกายยังไม่สามารถมาให้การ หรือต่อสู้ใดๆทางคดีได้ โดยตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย