ขยายผลจากพนันออนไลน์ ดีเอสไอบุกค้น 5 จุด เครือข่ายส่งออกน้ำมันโกฟุก ทำรัฐสูญเสียรายได้กว่า 2.8 หมื่นล้าน หลังทางการเมียนมายืนยันบริษัทรับซื้อน้ำมันในเมียนมาไม่มีอยู่จริง ทำนิติกรรมอำพรางให้ได้สิทธิรับซื้อน้ำมันในราคาถูก ไม่ส่งออกจริงแต่นำมาเวียนขายในไทย
ความคืบหน้าคดีโกฟุก วันนี้ (21 มี.ค.67) พนักงานสอบสวน กรมสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำหมายค้นเข้าตรวจสอบพร้อมกัน 5 จุด ในพื้นที่ 3 จังหวัด คดีนี้ดีเอสไอขยายผลจากคดีพิเศษที่ 10/2567 กรณีเครือข่าย "โกฟุก" นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบคอมพิวเตอร์หลอกลวงให้ประชาชนเข้าซื้อรางวัลเลขท้ายของรางวัลที่ 1 และรางวัลเลขท้าย 2 ตัว นำมาเชิญชวนให้มีการเล่นการพนันในหลายเว็บไซต์ มีเงินหมุนเวียนในระบบกว่า 1,000 ล้านบาท
ดีเอสไอสอบสวนจนพบว่ากลุ่มเครือข่ายดังกล่าวเกี่ยวข้องกับกรณีที่ กมธ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร ส่งเรื่องขอให้ตรวจสอบกลุ่มผู้บริหารและผู้ประกอบกิจการปิโตรเลียมกระทำความผิดเกี่ยวกับปิโตรเลียมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีพฤติการณ์เป็นขบวนการลักลอบจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในทั้งในและต่างประเทศ และเป็นผู้ซื้อน้ำมันเพื่อการส่งออกแต่ไม่มีการส่งออกอย่างแท้จริง โดยนำกลับมาจำหน่ายในประเทศ ส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นมีการฟอกเงินรายได้จากบ่อนกาสิโนแนวชายแดน หวยใต้ดินและสินค้าหนีภาษี
จากการสอบสวนขยายผล พบพฤติการณ์ต้องสงสัยว่า บริษัท Chindwin สัญชาติเมียนมา ที่แต่งตั้งนายสง่า หรือโกฟุก เป็นตัวแทนดำเนินการซื้อขายน้ำมันเชื้อเพลิงจากประเทศไทยเพื่อส่งออกไปยังสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยได้รับการยกเว้นทางภาษีมีตัวตนหรือไม่ พนักงานสอบสวนจึงขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา (MLAT) ตรวจสอบสถานะของบริษัท ชินด์วิน จำกัด ผลการตรวจสอบพบว่าไม่มีการจดทะเบียนในนามบริษัท Chinwind จำกัด ในสารบบนิติบุคคล ของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
อีกทั้ง บริษัท Chinwind ไม่ได้เปิดดำเนินการหรือมีสถานประกอบการตามที่ได้ระบุไว้ในเอกสารใบสั่งสินค้า (Purchase Order) บัญชีราคาสินค้า (Invoice) และเอกสารใบรับสินค้า (RECEIVING OF MERCHANDISE) ที่นำมาแสดงต่อบริษัทผู้ขายน้ำมัน จึงมีเหตุจำเป็นต้องตรวจสอบต้นทางคือนิติบุคคลและสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการส่งออกน้ำมันไปยังต่างประเทศ พนักงานสอบสวนจึงมีมติร่วมกับอัยการที่ร่วมสอบสวน ยื่นคำร้องขอหมายค้น ในพื้นที่ชลบุรี ชุมพร ระนอง รวม 5 จุด ผลการตรวจค้นสามารถพบและยึดสิ่งของเป็นพยานหลักฐานในรูปแบบเอกสารและไฟล์ดิจิทัลเพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนต่อไป
พ.ต.ท.ยุทธนา กล่าวว่า พฤติการณ์ของคดีนี้มีเหตุอันควรสงสัยว่าโกฟุกกับพวก ร่วมกันหลอกลวงใช้ชื่อบริษัทผู้ซื้อ คือ บริษัท Chindwin สัญชาติเมียนมา ซึ่งไม่มีอยู่จริง มาสร้างนิติกรรมอำพรางโดยแสดงเอกสารเท็จเป็นหนังสือแต่งตั้งเป็นตัวแทนผู้ซื้อ เพื่อใช้เป็นคู่ค้าหรือคู่สัญญาในการทำธุรกรรมซื้อน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อจะได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ทำให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่นำไปขายให้กับโกฟุกกับพวก เป็นราคาที่ถูกกว่าราคาตลาด
และยังมีพฤติการณ์อันควรสงสัยในการลักลอบหนีศุลกากรนำน้ำมันเชื้อเพลิง เข้ามาจำหน่ายเอากำไรภายในประเทศ ทำให้รัฐสูญเสียรายได้กว่า 28,000 ล้านบาท จากการสร้างบริษัทปลอมในประเทศเมียนมาว่าเป็นผู้ซื้อน้ำมัน แล้วนำน้ำมันกลับเข้ามาขายในประเทศไทยพร้อมขอคืนภาษี