ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมื่อคืนนี้ จังหวัดชายแดนภาคใต้ปั่นป่วน เมื่อกลุ่มก่อความไม่สงบ ก่อเหตุพร้อมกันใน 4 จังหวัด หลายพื้นที่ ซึ่งมีการระบุว่าการก่อเหตุครั้งนี้ กลุ่มก่อความไม่สงบบางส่วน ข้ามชายแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน มาร่วมก่อเหตุ และเป็นการฝึกผู้ก่อความไม่สงบรุ่นใหม่ ให้ออกก่อเหตุจริงด้วย
รูปแบบของเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อคืนนี้ คือที่ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ส่วนใหญ่จะเป็นการวางเพลิงทำลายสาธารณูปโภค มีทั้งวางเพลิงร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าทั่วไป โรงบรรจุแก๊ส วางเพลิงรถก่อสร้างถนน สำนักงานการไฟฟ้า เสาไฟฟ้า เสาสัญญาณโทรศัพท์ ร้านเฟอร์นิเจอร์ และปล้นทรัพย์ในโรงโม่หิน
ส่วนห้วงเวลาในการก่อเหตุนั้น เริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 01.00-02.00 น. ก่อเหตุไป 40 จุด แบ่งเป็นที่ปัตตานี 20 จุด, ยะลา 11 จุด, นราธิวาส 7 จุด, และสงขลา 2 จุด
มีผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นคนงานหญิงชาวเมียนมา ที่บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท. ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้าง ที่อำเภอมายอ ปัตตานี เสียชีวิตจากระเบิดที่คนร้ายนำไปวางไว้ที่ตู้จ่ายน้ำมัน
หนึ่งในจุดที่ถูกวางเพลิงเสียหาย คือร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งตั้งอยู่ภายในโรงงานบรรจุเเก๊ส ปตท.ท่าสาป จังหวัดยะลา อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า และโครงสร้างอาคารถูกไฟไหม้
พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ไปตรวจสอบในจุดนี้ด้วย แม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า เหตุก่อกวนเมื่อคืนนี้ ผู้ก่อเหตุไม่หวังต่อชีวิต เเต่ต้องการสร้างความเสียหายต่อเป้าหมายทางเศรษฐกิจที่อยู่นอกเขตเมือง เเละก่อกวนช่วงเดือนรอมฎอน เพราะถูกชักจูงว่าจะได้บุญมาก
เจ้าของร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกเผาเสียหาย บอกกับผู้สื่อข่าวว่า จากการสอบถามคนงานทราบว่า คนร้ายไม่ต่ำกว่า 7 คน ถืออาวุธครบมือ บุกเข้ามาจับคนงานรวมกันและมัดมือไว้ จากนั้นได้งัดประตูเหล็กทางด้านหลังและเข้าไปก่อเหตุภายในตัวอาคาร เจ้าของร้านบอกว่า ใช้ทุนเปิดร้านกว่า 20 ล้านบาท เสียหายทั้งหมด เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
แหล่งข่าวความมั่นคงในพื้นที่ เปิดเผยว่า กลุ่มก่อความไม่สงบที่ก่อเหตุในครั้งนี้ มีทั้งสมาชิกเก่าที่เคยก่อเหตุมานานแล้ว และส่วนหนึ่งในการก่อเหตุเมื่อคืน เป็นการฝึกคนรุ่นใหม่ให้ออกปฏิบัติการ
นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกกลุ่มก่อความไม่สงบอีกส่วนหนึ่ง ที่ข้ามชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน จากทางด้านอำเภอธารโต จังหวัดยะลา กลับเข้ามาเพื่อร่วมก่อเหตุ
อีกชุดหนึ่ง ข้ามชายแดนทางด้านแม่น้ำสุไหงโกลก ด้านอำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส สมทบกับกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ เป้าหมายเน้นทำลายระบบสาธารณูปโภค โดยมีคำสั่งมาว่า ไม่เน้นชีวิตคน ถือเป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์ ช่วงเข้าวันศุกร์ในเดือนรอมฎอน ซึ่งมีการปลูกฝังในหมู่ผู้ก่อความไม่สงบว่า การก่อเหตุวันศุกร์จะได้บุญ 2 เท่า
และในช่วงบ่ายที่ผ่านมา พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เดินทางลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ดูพื้นที่เกิดเหตุในบางจุด พบกับแม่ทัพภาคที่ 4 ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่า จากการวิเคราะห์ กลุ่มก่อเหตุไม่ประสงค์ต่อชีวิต แต่สร้างสถานการณ์ให้รู้ว่ามีศักยภาพ
