สนามข่าว 7 สี - บางครั้งความใจดีอยากช่วยเหลือผู้อื่น ก็นำพาให้เราเสียทรัพย์สินได้ง่าย ๆ เช่นผู้เสียหายคู่นี้ รับสาวแปลกหน้าขึ้นรถพาไปส่งท่ารถ แต่กลายร่างเป็นโจรฉกสร้อยคอทองคำ หนัก 1 บาท กว่าจะรู้ตัวว่าสร้อยหายตอนที่ส่งสาวคนนี้ลงรถแยกย้ายกันแล้ว
ผู้เสียหายเป็นคู่สามีภรรยา จูงมือกันมาแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองร้อยเอ็ด โดย นางบุญนาค ศรีลาดเลา อายุ 68 ปี ผู้เป็นภรรยา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถกระบะไปทำธุระที่จังหวัดขอนแก่น ระหว่างทางกลับบ้านที่จังหวัดร้อยเอ็ด ขับมาถึงแยกบ้านบ่อ อำเภอกมลไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ เกิดหิวจึงจอดรถแวะสั่งข้าวกิน ระหว่างนั้นเจ้าของร้านอาหารตามสั่งได้พาหญิงสาวคนหนึ่ง รูปร่างหน้าตาดี อายุก็น่าจะประมาณ 30 ปี มาหาบอกว่า "ขอฝากติดรถไปลงสถานที่จังหวัดร้อยเอ็ดได้ไหม" ซึ่งตนและสามีก็ไม่ติดขัดเห็นว่าเป็นผู้หญิง ก็ไม่น่ามีพิษภัยอะไร จึงยอมให้นั่งรถมาด้วย ระหว่างทางเธอชวนคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ ทั้งบอกว่าก่อนหน้านี้นั่งรถจะกลับบ้านที่จังหวัดสุรินทร์ แต่ถูกคนขับไล่ลงเลยเสียก่อน นางบุญนาค บอกว่า พอได้ฟังแล้วรู้สึกสงสารจับใจ โดยที่ตอนนั้นเธอกับสามีไม่เอะใจ และไม่คิดว่าหญิงคนนี้จะร้าย กล้าฉกสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท พร้อมพระสมเด็จเกศ ไชโย เลี่ยมทอง 1 องค์ ที่ใส่ไว้ในกระเป๋าสะพายวางไว้บนเบาะนั่งด้านหลัง ยังขับรถพาไปส่งที่ บขส. จังหวัดร้อยเอ็ด มารู้ว่าสร้อยทองหายไปเมื่อกลับถึงบ้านเปิดกระเป๋าดูไม่พบสร้อยทอง จึงรีบมาแจ้งความ ต้องการให้ตำรวจติดตามตัวมาดำเนินคดี
ผู้เสียหายยังบอกอีกว่ารู้สึกเจ็บใจมากที่รับโจรขึ้นรถ ทำให้ตัวเองต้องเสียทรัพย์สินที่กว่าจะเก็บเงินซื้อมาได้ต้องใช้เวลาพอสมควร ยิ่งช่วงนี้ราคาทองพุ่งแรง เตะบาทละ 38,000 กว่าบาท ก็ไม่รู้จะมีเงินซื้ออีกไหม อยากฝากถึงหญิงคนดังกล่าวให้นำของมาคืนจะไม่เอาความ