คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council หรือ UNSC ผ่านมติเรียกร้องให้กองทัพอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส (Hamas) ของปาเลสไตน์ หยุดยิงในฉนวนกาซาทันที และเรียกร้องให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันอย่างไม่มีเงื่อนไข โดยชาติสมาชิก 14 ชาติ ลงมติเห็นชอบ ซึ่งเสนอโดยชาติสมาชิกหมุนเวียนทั้ง 10 ชาติ ซึ่งครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ UNSC สามารถผ่านมติดังกล่าวได้ เนื่องจากสหรัฐฯ งดออกเสียง และไม่ใช้สิทธิวีโต (คัดค้าน) ในฐานะชาติสมาชิกถาวร หลังจากความพยายาม 3 ครั้งที่ผ่านมา สหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรของอิสราเอล ใช้สิทธิวีโต มาโดยตลอด
ขณะที่ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส (Antonio Guterres) เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า ข้อเรียกร้องนี้จะต้องถูกนำไปบังคับใช้ และความล้มเหลวถือเป็นสิ่งที่ไม่อาจให้อภัยได้
ด้านนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู (Benjamin Netanyahu) ของอิสราเอล กล่าวว่า ความล้มเหลวของสหรัฐฯ ในการใช้สิทธิวีโต นับเป็นการ "ล่าถอยอย่างชัดเจน" จากจุดยืนก่อนหน้านี้ และอาจส่งผลกระทบต่อความพยายามทำสงครามของอิสราเอล รวมทั้งความพยายามปล่อยตัวประกันมากกว่า 130 คน ที่กลุ่มฮามาสยังคงควบคุมตัวอยู่ และหลังจากการลงมติดังกล่าว ผู้นำอิสราเอลได้ยกเลิกแผนการเดินทางเยือนสหรัฐฯ ของผู้แทนระดับสูง ที่จะหารือถึงแผนปฏิบัติการทางทหารในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา
ขณะเดียวกัน วานนี้ กองทัพอิสราเอลได้เปิดเผยภาพการโจมตีเป้าหมายที่ระบุว่าเป็นฐานของกลุ่มฮามาส ในเมืองเดอีร์ อัล-บาละห์ (Deir al-Balah) ทางตอนกลางของฉนวนกาซา ท่ามกลางการสู้รบที่ยังคงดำเนินอยู่
ส่วนกลุ่มฮามาส ก็เผยภาพขณะนักรบฮามาสกำลังใช้อาวุธแบบประทับบ่ายิง โจมตีรถถังของอิสราเอล ในเมืองกาซาซิตี ที่อยู่ใกล้กับบริเวณโรงพยาบาลอัล-ชีฟา (al-Shifa)
