ลูกชายศิลปินดังโวยตำรวจบุกบ้าน อ้างจับแรงงานต่างด้าว ไม่มีหมายค้น จ.นครปฐม

View icon 396
วันที่ 27 มี.ค. 2567 | 06.44 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - ลูกชายศิลปินภาพเขียนชื่อดัง "จ่าง แซ่ตั้ง" โวยชายฉกรรจ์ พร้อมอาวุธ อ้างเป็นตำรวจภูธรภาค 7 บุกเข้ามาในบ้าน อ้างมาจับแรงงานต่างด้าว แต่ไม่มีการแสดงหมายค้น พอเจ้าของบ้านถามว่าทำไมบุกรุกเข้ามาแบบนี้ กลับตอบหน้าตาเฉยว่า "เห็นประตูมันเปิดอยู่" เจ้าของบ้านเตรียมเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

นี่เป็นภาพเหตุการณ์ขณะที่ นายทิพย์ แซ่ตั้ง อายุ 60 ปี ลูกชายของ "จ่าง แซ่ตั้ง" ศิลปินภาพเขียนชื่อดังระดับประเทศและระดับโลก กำลังโต้เถียงกับกลุ่มชายฉกรรจ์ 6 คน ที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจภูธรภาค 7 ซึ่งได้ถือวิสาสะขับรถเข้ามาในบ้าน อ้างว่าจะมาจับแรงงานต่างด้าว โดยไม่มีการแสดงหมายค้นจากศาล

เมื่อเจ้าของบ้านถามว่าเป็นตำรวจ ทำไมถึงทำอย่างนี้ กลุ่มชายดังกล่าวกลับอ้างหน้าตาเฉยว่า "เห็นประตูมันเปิดอยู่ เลยขับรถเข้ามา" และบางช่วงขณะที่ยืนคุยกัน กลุ่มชายที่อ้างว่าเป็นตำรวจ มีการจับอาวุธปืนที่เอว ทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกว่ากำลังถูกคุกคามจากชายกลุ่มนี้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วง 14.00 น. ของวันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา ภาพจากกล้องวงจรปิดของบ้านที่กำลังก่อสร้างเป็นหอศิลป์ ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลบางกระทึก อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม บันทึกภาพรถกระบะ 2 คัน สีแดง และสีบรอนซ์ ขับตามรถโม่ปูนเข้ามา เมื่อเข้ามาถึงบริเวณบ้าน กลุ่มชายที่อ้างตัวว่าเป็นตำรวจก็ลงจากรถ และเดินมุ่งตรงไปที่คนงานก่อสร้างที่กำลังทำงานอยู่ โดยไม่มีการแจ้ง หรือขออนุญาตกับเจ้าของบ้านแต่อย่างใด

นายทิพย์ แซ่ตั้ง เจ้าของบ้าน เปิดเผยกับทีมข่าวเช้านี้ที่หมอชิต ว่าการบุกเข้าบ้านครั้งนี้ ทุกคนไม่มีการแจ้งเหตุผล หรือขออนุญาตอะไรเลย ไม่แสดงบัตรตำรวจ เป็นการบุกรุก รุกล้ำ เมื่อถามเหตุผลของการเข้ามา ทุกคนยืนคุมเชิงล้อมตนเอง มีคนใส่แว่นตาดำคนหนึ่งอ้างเป็นหัวหน้า แต่ถามชื่อก็ไม่ยอมบอก ขอดูบัตรตำรวจก็ไม่ให้ บอกเพียงว่าจะมาจับแรงงานต่างด้าว ซึ่งในโครงการก่อสร้างที่บ้าน ไม่มีแรงงานต่างด้าวเลย เมื่อไม่มีแรงงานต่างด้าวให้จับ ชายกลุ่มนี้ก็พยายามถามคำถามหลายอย่าง เพื่อเบี่ยงเบนประเด็น การกระทำแบบนี้ทำให้ตนเองและภรรยารู้สึกไม่ปลอดภัย

หลังเกิดเหตุ นายทิพย์ ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.โพธิ์แก้ว พร้อมยืนยันว่าหลังจากนี้จะปรึกษาทนายความ เพื่อฟ้องร้องเอาผิดกับชายกลุ่มนี้จนถึงที่สุด ซึ่งเรื่องนี้หากมีความคืบหน้าอย่างไร ทีมข่าวจะติดตามมารายงานให้ทราบต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง