รวบ รอง ผอ. พร้อมคู่ขา ลวงแพทย์-ข้าราชการ เล่นยามั่วเซ็กซ์

View icon 101
วันที่ 27 มี.ค. 2567 | 16.06 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - รวบผู้อำนวยการโรงเรียนดัง ย่านปากเกร็ด พร้อมคู่ขา หลังไปแอบอ้างเป็นหมอตำรวจ ตระเวนสร้างสัมพันธ์ลึกซึ้งกับบุคลากรทางการแพทย์ และไปลวงให้เสพยา จนสิ้นเนื้อประดาตัว

นายเศรษฐยศ หรือที่รู้จักในนาม เจ๊เก่ง อายุ 42 ปี มีดีกรีเป็นถึงรองผู้อำนวยการโรงเรียนชื่อดัง ย่านปากเกร็ด และ นายกฤตฌาน์พัฒน์ หรือ ท็อป อายุ 37 ปี ถูกตำรวจนครบาลจับกุมตัวคาคอนโดมิเนียม ย่านรัตนาธิเบศร์ ตำบลบางกระสอ จังหวัดนนทบุรี พร้อมตรวจยึดของกลาง 10 รายการ ทั้ง ไอซ์, คีตามีน และอุปกรณ์การเสพ ถุงยางอนามัยกว่า 200 ชิ้น เจลหล่อลื่น ไวอากรา และยังมีหนังโป๊แบบชายรักชายจำนวนมาก

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสว่า นายท็อป แอบอ้างตัวว่าเป็นแพทย์อายุรกรรมโรคหัวใจโรงพยาบาลดัง จากนั้นไปสร้างสัมพันธ์ลึกซึ้งแบบชายรักชายกับเหล่าบุคลากรทางการแพทย์ ก่อนหลอกล่อให้เสพยาเสพติด "อ้างว่าเป็นยาบำรุง" กระทั่งเหยื่อติดสารเสพติดงอมแงม ตกเป็นธาตุกามแบบถอนตัวไม่ขึ้น และยังถูกหลอกถลุงเงินไปหลายล้านบาท เพื่อแลกกับการได้เสพยา จนเหยื่อแทบสิ้นเนื้อประดาตัว ภายหลังสืบสวนผลปรากฏว่า นายท็อป คนนี้เป็นสมุนของ นายเศรษฐยศ ที่จะเป็นคนรวมพลเหล่าข้าราชการเกย์ มามั่วสุมปาร์ตียาเสพติดในคอนโดฯ แต่สุดท้ายไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่จับกุม

หลังจับกุม พลตำรวจตรี ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ทำการสอบสวน นายเศรษฐยศ (รอง ผอ.) สารภาพว่า เริ่มเสพยากลางปี 2566 โดยสั่งมาจากทวิตเตอร์ จากนั้นนำมาขายในปี 2567 ให้เพื่อน, วัยรุ่น และข้าราชการ ยืนยัน ไม่เคยเอาไปขายให้กับเด็ก ๆ นักเรียนในโรงเรียน ส่วนถุงยางอนามัยที่มีเยอะ ๆ อ้างว่าไว้ใช้สอนหนังสือในโรงเรียน

ส่วน นายกฤตฌาน์พัฒน์ สารภาพว่า เรียนจบปริญญาโท ใช้สารเสพติดจนชีวิตเริ่มดำดิ่ง ถูกจับปี 2557 ติดคุก 1 ปี 3 เดือน หลังออกมาหางานทำ แต่ไม่มีใครรับ จึงหวนกลับมาเส้นทางเดิม ก่อนเริ่มคบหาดูใจกับแฟนหนุ่มซึ่งประกอบอาชีพแพทย์ ยืนยันว่า ไม่เคยไปหลอกลวงเหล่าแพทย์ชาย แต่พวกหมอเหล่านั้นติดยาเสพติดที่ตนเอาไปให้เอง ส่วนครูเก่งรู้จักเพราะไปรับยาเสพติดมาขาย

จากการขยายผลของชุดจับกุม พบว่า เจ๊เก่ง หรือ ครูเก่ง เป็นถึงระดับหัวจ่ายที่คอยส่งยาเสพติดให้กับข้าราชการอีกหลายคน โดยพบเงินหมุนเวียนในห้วงเดือนที่ผ่านมาเป็นจำนวนกว่า 1.3 ล้านบาท ซึ่งจากการตรวจสอบสารเสพติดในร่างกายของทั้งสอง พบว่ามีสารเสพติดในร่างกาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง