ทนายตั้ม ยอมรับเส้นทางการเงินไม่ถึง บิ๊กต่อ

View icon 56
วันที่ 28 มี.ค. 2567 | 05.06 น.
เช้าข่าว 7 สี
แชร์
เช้าข่าว 7 สี - เพิ่งจะแฉใหญ่ไปได้วันเดียว จริง ๆ เมื่อวานก็ยังแอบเรียกแขก ด้วยการแฉภาพและข้อมูลการบริจาคเงินของบัญชีม้า เข้าไปที่วัดแห่งหนึ่ง แต่พอไปถามเจ้าตัว แบบถามกันจริง ๆ ว่า มีไหมเส้นทางการเงินที่ไปถึง "ผบ.ตร."

หลักฐานที่ "ทนายตั้ม" ส่งมาให้กับทีมข่าว คือ มีบัญชีธนาคารบัญชีหนึ่ง โอนเงินจำนวน 180,000 บาท ไปบริจาคให้กับวัดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดฉะเชิงเทรา

ทนายตั้ม บอกว่า บัญชีนี้ คือ บัญชีม้า เป็นบัญชีเดียวกับที่ใช้โอนเงินให้กับคนใกล้ตัว และตำรวจหลายนาย คล้าย ๆ กับกรณีของ "บิ๊กโจ๊ก" คำถามคือ ถ้า "บิ๊กโจ๊ก" ถูกดำเนินคดีเพราะเรื่องนี้ แล้ว "บิ๊กต่อ" ต้องถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่

ส่วนเรื่องที่แฉไปเมื่อวันก่อน ยืนยันว่า 11.00 น. วันนี้ จะนำไปมอบให้ "รองเต่า" พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ดำเนินการตรวจสอบ และเป้าหมายต่อไป จะนำไปยื่นกับศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล หากนายกรัฐมนตรีไม่สนใจ ก็จะยื่นให้ฝ่ายค้านตรวจสอบต่อ

ทั้งนี้ ยืนยันว่าที่นำมาเปิดเผย แค่อยากให้การดำเนินคดีเป็นมาตรฐานเดียวกันเท่านั้น

"บิ๊กต่อ" ช่วงนี้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในต่างจังหวัด บอกแค่ว่าไม่ได้เครียดอะไรกับเรื่องที่นำมาเปิดเผย ถ้าส่วนไหนที่ทำให้เสียหาย ก็จะให้ทนายความฟ้องร้องดำเนินคดี

พอถามทนายความของ "บิ๊กต่อ" ก็บอกว่า ยังร่างคำฟ้อง และรวบรวมพยานหลักฐานไม่เรียบร้อย คาดว่าไม่เกินวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม จะนำไปยื่นฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ รายละเอียดจะชี้แจงวันนั้นทีเดียว

ทีมข่าวสอบถาม "รองเต่า" เรื่องที่นัดหมายกับ "ทนายตั้ม" ก็บอกว่า พร้อมรับหลักฐานไว้ตรวจสอบ หากหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงใคร จะดำเนินคดีไม่ละเว้น แต่ต้องขอเวลาตรวจสอบยืนยันก่อน ส่วนประเด็น 3 หน่วยงาน มีชื่อเรียกเก็บ "ส่วย" ยอมรับว่ามีข้อมูลอยู่แล้ว

ส่วนที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ขอให้ทนายตั้มระบุตัวว่าเป็นใคร เมื่อวานก็มาพร้อมคำใบ้ว่าเป็น "คนใน" สมาคม ใบ้ตัวย่อให้ว่าอยู่ในตำแหน่ง "อุปนายก" ชื่อ ว. แถมเลขบัญชี ธนาคารกสิกรไทย 758xxxxxx และตัวเลขสเตตเมนต์ที่ยาวเป็นหางว่าว

ส่วน "รองฟาง" และ "ดาบยาว" ที่ "ทนายตั้ม" เคยเอ่ยชื่อ ระบุว่าเป็นคนสำคัญของการแฉ เมื่อวานนี้ ผู้บัญชาการ สอท. หรือ ตำรวจไซเบอร์ ลงนามคำสั่งย้าย พันตำรวจโท สุรกุล หรือ "รองฟาง" และ ดาบตำรวจ อภิชาต หรือ "ดาบยาว" ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี แล้วเรียบร้อย

โดยมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาพิจารณาดำเนินโทษทางวินัย ส่วนคดีอาญา จะเป็นหน้าที่ของตำรวจ สน.เตาปูน และตำรวจสอบสวนกลาง ดำเนินการ

ยืนยันว่า เรื่องที่มีการพาดพิงว่ามีการใช้ห้องในกองบัญชาการตำรวจไซเบอร์ รับส่งยอดเงิน "ส่วย" ก็ปฏิเสธว่าห้องดังกล่าวเป็นห้องของผู้บังคับบัญชา ไม่ใช่ใครจะเข้าไปทำอะไรก็ได้ และปฏิเสธเรื่องที่ถูกพาดพิงว่า เป็นหน่วยงานเรียกรับผลประโยชน์ 18 รายการ

ส่วนเรื่อง "บิ๊กโจ๊ก" จะถูกออกหมายจับหรือไม่ เท่าที่ได้รับการยืนยัน ตอนนี้ยังไม่มีการออกหมายจับ เพราะอยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องที่มีการแจ้งความเอาผิด "พันตำรวจโท คริษฐ์" ลูกน้องของ "บิ๊กโจ๊ก" ซึ่งเป็นคนใช้บัญชีม้า ว่า ต้องโอนสำนวนคดีไปให้ ป.ป.ช. หรือไม่

แต่ก็มีรายงานข่าวมาว่า อาจมีการออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 3 เกิดขึ้น ก็ต้องรอดูกันให้ดีว่าจะจริงหรือไม่