สนามข่าว 7 สี - เหตุการณ์ต่อไปนี้เราติดตามมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่นักท่องเที่ยวแจ้งความว่าถูกขโมยบัตรเครดิตไปซื้อทองคำ จนหญิงที่ถูกกล่าวหาออกมาร้องไห้และปฏิเสธต่อหน้าสื่อมวลชนหลายสำนักในขณะนั้น แต่พอ 6 วันให้หลัง ตำรวจขอหมายค้นและบุกไปจับกุมเธอที่บ้านพักแห่งหนึ่ง พื้นที่บางพลัด
นี่เป็นนาทีหญิงกำลังซื้อทองคำ ที่ร้านทองแห่งหนึ่ง พื้นที่ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เมื่อซื้อเสร็จ เธอก็เดินออกไปออกไปจากร้านทันที โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา
ย้อนไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (21 มี.ค.) หญิงผู้ถูกกล่าวหา (ในขณะนั้น) ว่านำบัตรเครดิตของชายอายุ 33 ปี สัญชาติจีน ไปรูดซื้อทองคำ มูลค่า 32,815 บาท จนถูกตราหน้าว่าเป็นมิจฉาชีพ นางพญาจิ้งจอก ฯลฯ ซึ่งเธอได้ปล่อยโฮกลางวงสัมภาษณ์ พร้อมทั้งอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยไล่เรียงจากเหตุการณ์แรกจนถึงช่วงที่เธอหลบหนีออกมาจากห้องนักท่องเที่ยว
ล่าสุดช่วงเช้าวานนี้ (27 มี.ค.) ตำรวจ สภ.บางละมุง พร้อมด้วย ตำรวจ สน.บางพลัด (เจ้าของพื้นที่บุกจับ) นำหมายค้นศาลจังหวัดตลิ่งชัน บุกไปบ้านพักแห่งหนึ่ง พื้นที่แขวงบางอ้อ เขตบางพลัด กรุงเทพมหานคร เพื่อจับกุมหญิงอายุ 31 ปี ผู้ต้องหา และแจ้งข้อกล่าวหา ในฐานความผิดลักทรัพย์ เอาไปเสียซึ่งเอกสารใดของผู้อื่น ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นซึ่งได้ออกให้แก่ผู้มีสิทธิใช้โดยมิชอบ เพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสดหรือใช้เบิกถอนเงินสด ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ก่อนควบคุมตัวไปที่ สน.บางพลัด เพื่อรอตำรวจควบคุมตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.บางละมุง
ขณะที่หญิงอายุ 31 ปี ผู้ต้องหา สารภาพว่า ได้นำบัตรเครดิตจำนวน 3 ใบ ของคู่กรณีไปรูดซื้อทองคำจริง พร้อมทั้งขายทองคำดังกล่าวกลับคืนร้านขายทองคำ ในราคา 9,500 บาท ก่อนจะนำเงินที่ได้มาคืนคู่กรณีแต่ไม่ทั้งหมด
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า จากการพูดคุยทั้ง 2 ฝ่าย และพูดคุยกับผู้กำกับการ สภ.บางละมุง ทราบทันทีว่าใครพูดจริงหรือไม่จริง เนื่องจากคำให้การของทั้งสองคน มีเพียงคนเดียวที่ให้การตรงกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์
เบื้องต้นตำรวจ สภ.บางละมุง อยู่ระหว่างสอบสวนผู้ต้องหา ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย
