ทนายตั้ม ไม่หวั่นโดนฟ้อง มั่นใจหลักฐานโยงญาติ บิ๊กต่อ

View icon 71
วันที่ 28 มี.ค. 2567 | 06.41 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - "ทนายตั้ม" ยังคงออกมาเขย่าวงการสีกากีต่อเนื่อง หลังแถลงชุดใหญ่เปิดประเด็นเส้นทางเงินส่วย โยงใยไปถึงบุคคลรอบตัว "บิ๊กต่อ" โดยช่วงหนึ่งบอกว่าทำใจไว้แล้ว ไม่รู้จะมีอิทธิพลมืดมาทำอะไรตนเองหรือไม่ แต่ถือเป็นโอกาสอันดีที่สังคมจะได้รับรู้ พร้อมจี้ไปถึง นายกรัฐมนตรี ว่าจะทำลอยตัวปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่องไม่ได้ ต้องทำหน้าที่เป็นแพทย์ใหญ่ ผ่าตัดฝีร้ายเม็ดใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ทนายตั้ม ไม่หวั่นโดนฟ้อง มั่นใจหลักฐานโยงญาติ บิ๊กต่อ
นอกจากนี้ ทนายตั้ม ยังกล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่าเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมปีที่แล้ว มีเงินจากเว็บไซต์พนัน ผ่านบัญชีม้าที่ชื่อ "นายณัฐพงษ์" ไหลไปสู่พี่ชาย พี่สาว และภรรยาของบิ๊กต่อ จำนวน 190,000 บาท

ฉะนั้นไม่ใช่แค่ "บิ๊กโจ๊ก" พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพียงคนเดียว ที่จะโดนคดี ผู้เกี่ยวข้องกับเส้นเงินนี้ต้องถูกดำเนินคดี และเจ้าตัวควรออกมาพูดให้ชัดเจน จะพูดว่าไม่เกี่ยวข้องไม่ได้ ส่วนตำรวจต้องออกหมายเรียกญาติ ๆ บิ๊กต่อ มาให้ปากคำด้วย

และอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวของทนายตั้ม ที่ต้องจับตาก็คือวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ทนายตั้ม มีนัดกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ว่าจะเอาหลักฐานไปให้ ซึ่งเป็นการนัดกันต่อหน้าสื่อ ถ้ายังจำกันได้ ซึ่งทนายตั้ม ตั้งข้อสังเกตว่า เอาหลักฐานไปให้ก็ไม่รู้ว่าจะทำคดีให้หรือไม่ เพราะข้อมูลที่ตนมี ทาง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ก็มี เพราะเป็นคนทำคดี BNK master แต่ไม่ดำเนินคดีกับใคร

อย่างไรก็ตาม หากร้องตำรรวจแล้วไม่คืบหน้า คงต้องยื่นเรื่องให้นายกฯ แต่ถ้าไม่สนใจอีก ก็จะยื่นให้ฝ่ายค้าน ส่วนตัวไม่อยากให้ตำรวจโมโห ต้องโทษหัวหน้าหน่วยงาน หัวหน้าองค์กร ที่เห็นแก่ประโยชน์ เห็นแก่เงิน โดยไม่สนองค์กร

ทนายตั้ม แฉต่อ บัญชีม้าโอนเงินทำบุญวัด บิ๊กต่อ สร้างพระ
นอกจากนี้ ทนายตั้มยังโพสต์เฟซบุ๊กเผยแพร่ภาพ บิ๊กต่อ ซึ่งไปร่วมงานบุญในพิธีมหาเทวาภิเษกท้าวพญายม พร้อมบรรยายข้อความว่า "บัญชีม้าวิ่งส่วยโอนเงินเข้าวัดเที่ยงพิมลสุข 15 ธันวาคม 2565 เหลือจะเชื่อที่ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ไปเข้าพิธีสร้างพระวันที่ 17 ธันวาคม 2565 ผมขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ" พร้อมระบุในช่องคอมเมนต์ "เห็นทีรอบนี้ม้าจะได้ขึ้นสวรรค์" โดยประเด็นนี้คล้ายกับการแถลงข่าวเมื่อวาน ซึ่ง ทนายตั้ม เปิดข้อมูลอ้างว่ามีเส้นทางเงินส่วยบริจาคไปที่วัดนครอินทร์ จังหวัดนนทบุรี เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนปีที่แล้ว

2 วัดดังโต้ปม บิ๊กต่อ โอนเงินบริจาคให้วัด
จากกรณีที่มีการพาดพิงถึงหลายวัด จากการแถลงข่าวของทนายตั้ม ทีมข่าวจึงลงพื้นที่วัดนครอินทร์ จังหวัดนนทบุรี แม้ทางเจ้าอาวาสจะไม่ให้ข้อมูล แต่ทางมัคนายกของวัด ยืนยันว่า บิ๊กต่อ ไม่ได้มาร่วมงานตามคำกล่าวอ้าง มีเพียงพี่สาวและภรรยามาร่วมงาน ส่วนเงินบริจาคไม่ได้สูงถึง 700,000 บาท แต่มีบริจาคประมาณ 300,000 บาท

ส่วนที่วัดเที่ยงพิมลมุข จังหวัดฉะเชิงเทรา ทางวัดยืนยันว่า บิ๊กต่อ มาร่วมงานทำบุญจริง โดยเป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีเททองหล่อพระ และทำบุญด้วยซองตามปกติ โดยใช้เวลาเดินทางมาไม่เกินครึ่งชั่วโมง ก็เดินทางกลับ

บิ๊กต่อ ไม่เครียด เตรียมดำเนินคดี ทนายตั้ม
ไปที่ความเคลื่อนไหวของฝั่งบิ๊กต่อกันบ้าง หลังโดนพาดพิงมา 2 วันติด ก็ไม่อยู่เฉยเช่นกัน ขณะนี้ได้เตรียมทีมทนายดำเนินคดีกับทนายตั้ม ทั้งอาญาและแพ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีรายงานว่านำทีมโดย ทนายศิริพงษ์ พงศ์พันธ์ุสุข อดีตอัยการอาวุโส สำนักงานคดีศาลสูงภาค 1 จะมีการแถลงข่าวในวันศุกร์นี้

สั่งเด้ง ดาบยาว-รองฟาง ถูก ทนายตั้ม พาดพิงรับส่วย
ขณะที่ "ดาบยาว" กับ "รองฟาง" 2 ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ สอท. ที่ถูกทนายตั้มพาดพิงว่าเป็นมือไม้ของบิ๊กต่อในขบวนการรับส่วย

ล่าสุด พลตำรวจโท วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้สั่งย้าย ด.ต.อภิชาต สุวรรณเพ็ชร หรือ ดาบยาว และ พ.ต.ท. สุรกุล ธัญสิริดำรง หรือ รองฟาง ไปประจำ ศปก. สอท. และให้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้แล้ว

ไปดูที่ความเคลื่อนไหวของบิ๊กโจ๊กกันบ้าง ก่อนหน้านี้มีการออกมาปฏิเสธว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังทนายตั้ม และมีกระแสข่าวออกมาว่าจะมีการแถลงเปิดใจในวันที่ 1 เมษายนนี้

ล่าสุด บิ๊กโจ๊ก ได้โพสต์ปฏิเสธผ่านเพจ สุรเชษฐ์ หักพาล ยืนยันว่าจะไม่มีการแถลงข่าวเปิดใจใด ๆ พร้อมเรียกร้องจรรยาบรรณจากสื่อ โดยอธิบายว่า "มีสื่อโทรมาพูดคุยกับผม ผมก็รับสาย ผมบอกว่าวันที่ 1 เมษายน ผมจะประชุมเรื่องปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ที่ผมเป็นประธานแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ตามมติ ครม. แต่ท่านก็เขียนโยงว่า ผมจะเปิดใจ ผมขอความกรุณา ท่านอย่าทำอย่างนี้ เตือนนักข่าวที่สัมภาษณ์ผมให้หยุดนะครับ ถ้าไม่หยุดผมจะดำเนินคดีอาญา แล้วอย่ามาขอผมนะครับ"

นอกจากนี้ยังได้วิงวอนว่า "ขอพี่น้องสื่อมวลชนได้โปรดเข้าใจ และนำเสนออย่างตรงไปตรงมา เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในเนื้อหาที่นำเสนอ ขอบคุณครับ เรามา สร้างสังคมแห่งความสามัคคีด้วยกัน"