ห้องข่าวภาคเที่ยง - อากาศที่ร้อนอบอ้าว ทำให้ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ออกไปเลี้ยงวัว หายไปจากบ้าน จนญาติ ๆ และชาวบ้านต้องประกาศออกตามหา กระทั่งไปพบว่านอนเสียชีวิตในป่าหญ้า คาดเป็นลมจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด
โดยลูก ๆ และญาติ ๆ รวมถึงชาวบ้านในตำบลกุยบุรี อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต้องช่วยกันประกาศ และออกตามหา นายรำพึง อายุ 70 ปี ที่หายไปจากบ้าน ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เมื่อวานนี้ หลังจากเดินออกต้อนวัวไปกลางทุ่งนา กระทั่งช่วงเย็น ก็ไม่กลับบ้าน ทำให้ญาติ ๆ เกรงว่า จะได้รับอันตราย เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย และตำรวจ ให้ช่วยกันตามหา ก่อนที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจะรับแจ้งเหตุ เมื่อเวลา 22.00 น. เมื่อคืน พบร่างนายรำพึง นอนเสียชีวิตอยู่ในป่าหญ้า ริมถนน ในสภาพนอนหงาย ในมือขวายังถือไม้เรียวที่ใช้ไล่ต้อนวัวอยู่
เบื่องต้นตำรวจ สภ.กุยบุรี ตรวจสอบ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือถูกทำร้าย จึงส่งร่างให้แพทย์ชันสูตร เบื้องต้นคาดว่า เกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด และเป็นคนสูงอายุ คาดว่าน่าจะเป็นลม ซึ่งมีกอหญ้าขึ้นสูง ทำให้ไม่มีใครพบ กระทั่งเสียชีวิต แต่ยังคงรอผลการตรวจจากแพทย์ยืนยันอีกครั้ง
กรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าอุณหภูมิจะพีกสุด วันที่ 3-4 เมษายนนี้ อาจแตะ 42-43 องศาเซลเซียส ที่ภาคเหนือ และภาคกลาง ส่วนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ประมาณ 41 องศาเซลเซียส แต่ดัชนีความร้อนหรือความร้อนที่เราสัมผัสได้ 48-50 องศาเซลเซียส และจะรู้สึกร้อนมาก ๆ ช่วง 15.00-16.00 น.
แต่ช่วงก่อนสงกรานต์ 9-11 เมษายน จะมีฝนมาช่วยคลายร้อน และส่งผลให้ช่วงสงกรานต์ อากาศไม่ร้อนจัดและในวันที่ 27 เมษายน ดวงอาทิตย์จะตั้งฉาก กับ กทม. แต่จะร้อนสุดหรือไม่ ต้องรอดูปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความชื้น หรือ ฝนที่อาจจะตกได้
ช่วงอากาศร้อน เตือนงดทำกิจกรรมการกลางแจ้ง และจิบน้ำบ่อย ๆ ป้องกันการเกิดโรคลมแดด หรือ ฮีตสโตรก โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ คนอ้วน มีโรคประจำตัว คนทำงานกลางแจ้ง และ ผู้สูงอายุ ถ้ารู้สึกหายใจถี่ หัวใจเต้นแรง แต่ไม่มีเหงื่อ หิวน้ำมาก อ่อนเพลีย อาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อหัวใจ สมอง ไต และกล้ามเนื้อ ถึงขั้นเสียชีวิตได้
