ห้องข่าวภาคเที่ยง - เช้านี้ ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่ "อาม่าฮวย" ฟ้องลูกสาวแท้ ๆ ลักทรัพย์ โอนเงินจากบัญชีธนาคารกว่า 24 ล้านบาท หลังศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ พิพากษาว่าลูกสาวของอาม่ากระทำผิดจริง
คดีนี้ต้องเรียกว่าเป็นมหากาพย์ยาวนานนับสิบปี กรณี "อาม่าฮวย" ศรีวิรัตน์ ซึ่งปัจจุบันอายุ 86 ปี ฟ้อง "นางมาวดี" ลูกสาวแท้ ๆ ในคดีลักทรัพย์และใช้เอกสารปลอม โดยร่วมกับพนักงานธนาคารถอนเงินจากบัญชีธนาคาร และถ่ายโอนทรัพย์สินอื่น ๆ ของอาม่า ซึ่งในส่วนคดีอาญา มีทั้งคดีที่อัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางมาวดี ความเสียหายกว่า 250 ล้านบาท และคดีที่ "อาม่าฮวย" เป็นโจทก์ฟ้องลูกสาวเองว่าถูกลักทรัพย์ เงินในบัญชีธนาคารอีกแห่งหนึ่งกว่า 24 ล้านบาท เมื่อปี 2560 ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกาในวันนี้
ในส่วนคดีลักทรัพย์ที่อาม่าฟ้องเอง ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยฉวยโอกาสทยอยถอนเงินในบัญชีธนาคารกว่า 24 ล้านบาท และถ่ายโอนทรัพย์สินอื่น ๆ จริง ในช่วงที่อาม่ามีสติไม่สมบูรณ์ อยู่ระหว่างการพักฟื้นรักษาตัวด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ศาลให้จำคุกทุกกระทง รวม 12 ปี
ต่อมาวันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น เนื่องจากเป็นการกระทำผิดต่อบุพการี และเป็นเงินจำนวนมาก ถือเป็นเรื่องร้ายแรง แม้จำเลยไม่เคยรับโทษจำคุกมาก่อน ก็ไม่เป็นเหตุให้รอการลงโทษ โดยล่าสุด ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น