กรมอุทยานฯ ดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาการกระทำผิดทางพินัยกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติดำน้ำจับหางฉลามวาฬที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
วันนี้ (3 เม.ย.67) จากเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาดำน้ำที่กองหินริเชริว และได้สัมผัสปลายหางฉลามวาฬ เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 67 ที่ผ่านมา ซึ่งมีข้อสงสัยว่า นักดำน้ำสามารถสัมผัสปลายหางฉลามวาฬได้หรือไม่ และเป็นการทำให้เกิดอันตรายกับสัตว์ทะเลโดยตรงและทำลายทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งมีชีวิตในท้องทะเลหรือไม่
ทา นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับรายงานจากนายอาทิตย์ ขยันกิจ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ว่า จากเหตุการณ์นี้ได้ดำเนินการดังนี้
1. อุทยานฯ ได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาการกระทำผิดทางพินัยกับผู้กระทำผิด
2. อุทยานฯ ได้ประสานงานกับผู้ควบคุมดำน้ำลึก เพื่อขอทราบข้อมูลการกระทำผิด
3. อุทยานฯ ได้แจ้งข้อกล่าวหาการกระทำผิดทางพินัย ให้ผู้กระทำผิดทราบ และผู้กระทำผิด ผู้ควบคุมดำน้ำลึกรับสารภาพ
4. อุทยานฯ ได้นำส่งบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาการกระทำผิดทางพินัย (พน.อส.1) และบันทึกการให้การรับสารภาพ (พน.อส.2) ส่งสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 5 เพื่อดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ได้ยกระดับให้ปลาฉลามวาฬ เป็นสัตว์ป่าสงวน ซึ่งฉลามวาฬ (Whale Shark) เป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งฉลามวาฬไม่เป็นภัยต่อมนุษย์ แต่กำลังประสบปัญหาคุกคามจากมนุษย์ ทั้งการลดจำนวนลงของแพลงก์ตอน และมลพิษกับอุบัติเหตุจากเรือยนต์เช่นเดียวกัน แต่ฉลามวาฬจะพบการคุกคามที่รุนแรงกว่า คือการล่าเพื่อตัดครีบที่เรียกว่า “หูฉลาม”