สนามข่าว 7 สี - เป็นอีกวันที่รัฐบาลกับฝ่ายค้านปะทะเดือด เรียกว่าเปิดแลกกันหมัดต่อหมัดตลอดทั้งวัน เราจะมาไล่เรียงกันทีละประเด็น เริ่มจากถล่มนโยบายปฏิรูปกองทัพ และปมคนในรัฐบาลเดินเร่ขอเงินทอนจัดซื้อเรือฟริเกต ซึ่งนายกฯ เศรษฐาสวนทันทีผิดหวังจริง ๆ นั่งฟัง 40 นาทีกลับมีแต่ข้อมูลไร้สาระ และวาทกรรมด้อยค่า ยันไม่มีใครทุจริต
สุทิน รับตัดงบฯ เรือฟริเกต เพราะกลัวพรรคก้าวไกลด่า
ที่น่าสนใจคือเหตุผลของ บิ๊กทิน สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นี่แหละที่สารภาพเลยที่ตัดงบเรือฟริเกต เพราะรัฐบาลแทงม้าผิด กลัวพรรคก้าวไกลด่า แต่ถูกสับขาหลอก ดังนั้นปีหน้าจัดงบฯ ซื้อ 2 ลำซ้อนอย่าโวยแล้วกัน
ชวน-เศรษฐา ปะทะเดือด ประท้วงวุ่น
อีกคู่เดือดคือมวยหลักอย่างคุณชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี กับนายกฯ เศรษฐา กับเรื่องราคายางพารา และการพัฒนาจังหวัดภาคใต้ ที่พาดพิงรัฐบาลไทยรักไทย โดยเฉพาะช่วงที่นายกฯ ฟาดเดือดให้คุณชวนลองหามุขใหม่ ๆ มาอภิปราย ขณะคุณชวนตอบโต้อย่างไร
รทสช.เดือด หลังพรรคก้าวไกล แตะ บิ๊กตู่
อีกช่วงเป็นคู่ สส.เบญจา แสงจันทร์ จากพรรคก้าวไกล อภิปรายปมเหมืองทองอัครา ถามรัฐบาลเศรษฐาไม่กล้าดำเนินคดี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกฯ ตามที่ประกาศไว้ หรือมีอำนาจนอกทำเนียบฯ ขี่คออยู่ ทำเอา สส.พรรครวมไทยสร้างชาติแทคทีมประท้วงอย่างหนักเลยทีเดียว เพราะมองว่าเป็นการพาดพิงบุคคลภายนอก
พิธา เปิดใจอาจจะอภิปรายในสภาฯ ครั้งสุดท้าย
ในการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติที่พรรคฝ่ายค้านยื่นซักถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะต่อรัฐบาลซึ่งมีการอภิปรายต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 3 เมษายนจนถึงเมื่อวานนี้( 4 เม.ย.)ใช้เวลารวมกว่า 36 ชั่วโมง โดยช่วงท้ายของการอภิปรายนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เป็นผู้อภิปรายปิดท้าย ได้เปิดใจว่า ตลอดเวลา 7 เดือนที่ผ่านมา ไม่เคยเสียใจเลยที่ได้มาเป็นฝ่ายค้าน เพราะการเป็นฝ่ายค้านก็มีความสำคัญต่อระบบประชาธิปไตยและสามารถทำงานให้ประชาชนได้ และแม้การอภิปราย มาตรา152 ในครั้งนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตการเมืองของตนเองก็ตาม อยากฝากถึงรัฐบาล 3 ข้อว่า ถึงเวลาที่ต้องปรับครม.แล้วปรับคนให้ตรงกับงาน ถึงเวลาที่นายกรัฐมนตรีจะมีโรดแม็พในสิ่งที่จะทำได้แล้ว และสุดท้ายผู้นำในศตวรรษที่ 21 ต้องฟังเพื่อตอบสนอง ไม่ใช่ฟังเพื่อตอบโต้ตลอดเวลา
