ไทย-ภูฏาน กระชับความสัมพันธ์ รอฟังข่าวดี ทั้งด้านการค้าการลงทุน และส่งเสริมการท่องเที่ยว

ไทย-ภูฏาน กระชับความสัมพันธ์ รอฟังข่าวดี ทั้งด้านการค้าการลงทุน และส่งเสริมการท่องเที่ยว

View icon 61
วันที่ 5 เม.ย. 2567 | 09.16 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
รอข่าวดี! ไทย - ภูฏาน เตรียมเปิดเจรจา FTA กลาง พ.ค.นี้ พร้อมยกระดับ e-Visa ต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดึงเม็ดเงินเข้าประเทศ

วันนี้ (5 เมย67) นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผย ผลการหารือกับนาย Lyonpo D. N. Dhungyel รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้าระหว่างประเทศ ราชอาณาจักรภูฏาน ในระหว่างการเดินทางเยือนราชอาณาจักรภูฏาน 3 – 6 เม.ย. 2567 นี้ ว่า รัฐบาลไทยคาดว่าจะเริ่มประกาศเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-ภูฏาน ได้ในการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (JTC) ครั้งที่ 5 ที่ภูฏานจะเป็นเจ้าภาพ ในช่วงวันที่ 15 – 18 พ.ค. 2567 ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า FTA จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจระหว่างกัน

สำหรับมูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างไทยและภูฏานในปี 2566 อยู่ที่ 18.78 ล้านเหรียญสหรัฐ และทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าเป็น 120 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2568 ซึ่งภูฏานมีความประสงค์จะส่งออกสินค้าเกษตรมายังประเทศไทย ได้แก่ แอปเปิ้ล มันฝรั่ง ส้ม และน้ำผึ้ง โดยขอให้ไทยเร่งรัดการอนุมัติการนำเข้าสินค้าดังกล่าวให้กับภูฏาน ขณะที่สินค้าส่งออกสำคัญของไทย ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ ผ้าผืน ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลีและอาหารสำเร็จรูป ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง และเตาอบไมโครเวฟ

ผู้แทนการค้าไทยกล่าวต่อว่า ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญของชาวภูฏาน โดยในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวภูฏานเดินทางมาเข้าท่องเที่ยวในไทย 20,356 คน และมีแนวโน้มมากขึ้นในปีนี้และปีต่อ ๆ ไป ซึ่งไทยมีแผนที่จะจัดทำระบบการตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์ (e-Visa) สำหรับชาวต่างชาติ รวมถึงชาวภูฏานเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง เพิ่มรายได้การท่องเที่ยว ขณะเดียวกันก็มีนักท่องเที่ยวไทยไปท่องเที่ยวในภูฏานเพิ่มมากขึ้นด้วย

“ภูฏานจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Sustainable Finance for Tiger Landscape ซึ่งเป็นเวทีการประชุมเกี่ยวกับการอนุรักษ์เสือโคร่ง ในช่วงปลายเดือน เม.ย.2567 โดยฝ่ายภูฏานได้เชิญผู้แทนไทยเข้าร่วมด้วย ทั้งนี้ ทั้งสองประเทศยืนยันที่จะร่วมมือกันพัฒนาความร่วมมือในทุกมิติในฐานะพันธมิตรที่แท้จริง” ดร. นลินี กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง