สังขละบุรี เจอเมียนมา 73 ชีวิต นั่งเรือข้ามฟากหลบหนีเข้าเมืองไทย

สังขละบุรี เจอเมียนมา 73 ชีวิต นั่งเรือข้ามฟากหลบหนีเข้าเมืองไทย

View icon 219
วันที่ 8 เม.ย. 2567 | 12.28 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจ-ทหาร ร่วมสกัดจับชาวเมียนมา 73 คน นั่งเรือข้ามฟาก หลบหนีเข้าเมืองไทย สารภาพจ่ายค่านายหน้า 15,000-30,000 บาท

สังขละบุรี วันนี้(8 เม.ย.2567) ผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า ตำรวจทางหลวง (ทล.) นำโดยตำรวจ สว.ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. ร่วมกับ สภ.ทองผาภูมิ, ตชด.ที่135, ตม.จ.กาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจับกุม แรงงานต่างด้าว 73 คน ผู้ติดตาม 4 คน พร้อมตรวจยึดของกลาง รถยนต์กระบะคอก ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว จำนวน 1 คัน, รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน จำนวน 3 คัน, อาวุธปืนสั้น ชนิดกึ่งอัตโนมัติ ยี่ห้อ SIGSAUER รุ่น P320 ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก, แมกกาซีน ขนาด 9 มม. จำนวน 2 อัน และ กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 22 นัด (บรรจุอยู่ภายในแมกกาซีน จำนวนแม็กละ 11 นัด) ซึ่งอาวุธปืนถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องเก็บของด้านข้างเบาะผู้ขับขี่ภายในรถยนต์กระบะคอก โดยจับกุมได้ภายในสวนยางพารา ซอย 4  ม.4 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ตั้งจุดสกัด เพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวและป้องกันการลักลอบขนยาเสพติด ต่อมาในระหว่างออกตรวจไปถึงบริเวณภายในสวนยางพารา ซอย 4 ม.4 ต.ท่าขนุนฯ ได้พบรถยนต์กระบะคอก ยี่ห้ออีซูซุ และรถจักรยานยนต์อีก 3 คัน จอดอยู่และเห็นกลุ่มคนลักษณะคล้ายกลุ่มแรงงานต่างด้าวกำลังเดินขึ้นรถยนต์กระบะคอก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเกรงว่าอาจจะเป็นการแอบลักลอบขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เพื่อทำการเข้าตรวจสอบ แต่กลุ่มคนดังกล่าวได้พบเห็นเจ้าหน้าที่ได้พยายามที่วิ่งจะหลบหนีเข้าไปในป่า เจ้าหน้าที่วิ่งตามไปสกัดจับควบคุมตัวกลุ่มคนดังกล่าวไว้ได้ทัน แต่ไม่สามารถควบคุมตัวผู้ขับขี่ไว้ได้

จากการตรวจสอบพบว่ากลุ่มคนดังกล่าวเป็นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง จำนวน 73 คน (เป็นชายจำนวน 55 คน และ หญิงจำนวน 18 คน) และผู้ติดตาม จำนวน 4 คน (เป็นชาย จำนวน 4 คน) เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงขอตรวจสอบเอกสารและบัตรประจำตัว แต่ผู้ต้องหาที่ 1 - 73 ซึ่งไม่สามารถนำมาแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ ไม่สามารถพูดและรับฟังภาษาไทยได้เลย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ประสานกับ นายยามินฯ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ อส.ตร. มาเป็นล่ามแปลภาษา ทำการสอบถามผู้ต้องหาที่ 1 - 73 ได้แจ้งกับเจ้าที่ชุดจับกุมว่าพวกตนไม่มีเอกสารหรือบัตรประจำตัวใด ๆ ทั้งสิ้นและยังไม่เคยได้รับเอกสารประจำตัวใด ๆ โดยเดินทางหลบหนีเข้าเมืองมาจากประเทศเมียนมา มาตามช่องทางธรรมชาติ บ้านพระเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี และได้นั่งเรือมาจากอำเภอสังขละบุรีฯ จนมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อรอขึ้นรถที่จะเดินทางเข้าไปทำงานในตัวเมืองชั้นใน โดยจะเสียค่าเดินทางให้กับนายหน้าประมาณคนละ 15,000 ถึง 30,000 บาท จะจ่ายก็ต่อเมื่อเดินทางถึงที่หมาย

จากนั้นจึงตรวจค้นภายในรถและบริเวณรอบข้างอย่างละเอียด ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนสั้นและเครื่องกระสุนปืนดังกล่าว ส่วนจักรยานยนต์ 3 คัน ที่อยู่ในที่เกิดเหตุเป็นรถที่ใช้สำหรับรับแรงงานต่างด้าวที่นั่งเรือมาส่งที่ฝั่งตามแนวชายฝั่งแม่น้ำบ้านขนุนคลี่ จากนั้นแรงงานต่างด้าวจะนั่งรถจักรยานยนต์ ทยอยทีละ 3 - 4 คน ไปลงที่บริเวณภายในสวนยางพารา ซอย 4 หมู่ 4 ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อนั่งรถยนต์กระบะพาไปส่งในพื้นที่ชั้นในต่ออีกทอดหนึ่ง

ทั้งนี้ ตำรวจคาดว่าขบวนการดังกล่าวเป็นขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย โดยมีการเตรียมรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในลำเลียงแรงงานต่างด้าวจากประเทศเมียนมา โดยมีนายหน้าคนไทยในการติดต่อกับนายหน้าเมียนมาเพื่อลักลอบขนแรงงานต่างด้าว ซึ่งรถยนต์ จักรยานยนต์ และอาวุธที่ชุดจับกุมยึดมาได้ จะทำการตรวจสอบหาตัวผู้ครอบครอง เพื่อสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในการนำแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองในครั้งนี้หรือไม่

เบื้องต้น ตำรวจดำเนินคดีผู้ต้องหาทั้งหมดในความผิดฐาน "เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต" และผู้ต้องหาที่ 74 - 87 ส่งให้เจ้าหน้าที่ผลักดันกลับประเทศเมียนมา และควบคุมตัวพร้อมของกลางและนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรทองผาภูมิ ภ.จ.กาญจนบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป