วันนี้ (11 เม.ย.67) แพรรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร หรืออดีตมหาไพรวัลย์ เตือนสติชาวพุทธอย่าเป็นพวกศรัทธาตาบอด โดยแพรรี่ไพรวัลย์หยิบข้อสังเกตขึ้นมาเป็นข้อเตือนใจว่า พระพวกนี้ถ้าเห็นผู้หญิงไม่สวย มีอายุแต่มีเงิน จะงัดมุกอดีตชาติเคยเป็นแม่ลูกมีบุญสัมพันธ์กัน เมื่อรับเป็นลูกบุญธรรม พอพระขออะไรให้หมด โดยเปรียบเทียบกับเคส ”ทิดคม” ที่ถูกศาลสั่งจำคุกกว่า 400 ปี เคสนี้ก็อ้างอดีตชาติกับคุณหญิงคุณนาย แต่ถ้าเป็นผู้หญิงสวยๆ พระพวกนี้จะใช้มุกเรื่องอดีตชาติเหมือนกัน แต่จะบอกว่าชาติก่อนเคยเป็นผัวเมียกัน โยมเคยเป็นสนม เคยเป็นนางห้าม ชาตินี้มีบุญได้มาเจอกันอีก พูดแบบนี้ทำให้ผู้หญิงเคลิ้ม ชาตินี้มีบุญได้มาเจอกันอีก จึงขอถวายตัวอีกสักรอบ
“เห็นมุกตื้นๆ แบบนี้แต่มีคนพร้อมเชื่อ คนชอบทำบุญ มีพื้นฐานจิตใจที่ดี แต่พอมาเจอวิธีการพูดของพระพวกนี้ ไม่ถึงขนาดมีจิตวิทยาในการพูด แต่เกิดจากเป็นการพูดซ้ำๆ ทุกวัน ทำให้เกิดหลงศรัทธาตาบอด คิดว่ามีของขลัง สุดท้ายได้ของแข็ง”
แพรรี่ ไพรวัลย์ ยกคำกล่าวของพระพยอม กัลยาโณ ที่หลวงพ่อพยอมเคยบอกแล้วอย่าเอาพระเป็นผัว อย่าเอาพระมาเป็นสมบัติส่วนตัว ให้เอาพระเป็นครูอาจารย์ เป็นแบบอย่าง โยมผู้หญิงที่เข้าวัดปฏิบัติธรรมต้องระวังตัว เห็นพระสอนเพี้ยนๆ แปลกๆ อย่าไปเชื่อ ถวายตัวได้บุญไม่มี มีแต่ถวายตัวได้บาป บาปทั้งโยมทั้งพระ
แพรรี่ ไพรวัลย์ บอกด้วยว่า กิเลสตัณหา กามอารมณ์ไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องถูกสถานะ ถ้ารักกันก็ต้องสึกออกมา พระที่พรรษาอ่อน บวชแค่ 3 พรรษา 5 พรรษา อย่ารีบตั้งตัวเป็นครูบา อย่าอยากเป็นเจ้าอาวาส เป็นพระเกจิ หลวงปู่หลวงตา สุดท้ายจะสู้กิเลสกามไม่ได้ หากจะตั้งตัวเป็นอาจารย์สอนกรรมฐาน ควรบวชให้ได้สักพรรษา 10 ก่อน ค่อยสอนชาวบ้าน ตามกฎสงฆ์ พระไม่ถึง 5 พรรษา ออกห่างจากพระอุปฌาชย์ไม่ได้ เพื่อให้สู้กับกิเลสตัณหาได้ พระหลายรูปไม่ใช่คนเลวโดยสันดาน แต่ไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สามารถข่มจิตใจได้ เมื่อเห็นข่าวก็รู้สึกเสียดายอุตส่าห์บวชเรียน
