โกรธอะไรกันมา 2 คนงานเมียนมา เมามีปากเสียง ใช้เก้าอี้ฟาดจนพัง หยิบเหล็กแทงคอซ้ำ ดับคามือ
วันนี้ (12 เม.ย.67) ร.ต.อ.ภัคธร หมวดเมือง รองสว.(สอบสวน) สน.บางโพงพาง ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิตถูกทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดที่บ้านพักในซอยสาธุประดิษฐ์ 39 ถนนสาธุประดิษฐ์ แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ และอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถวสูง 2 ชั้น บริเวณตัวบ้านใกล้ประตูพบศพชายไม่ทราบชื่อ ไม่ทราบสัญชาติ อายุประมาณ 35-40 ปี สวมเสื้อฟุตบอลสีแดง กางเกงยีนขาสั้น บริเวณคอด้านขวามีบาดแผลถูกแทงเป็นบาดแผลฉกรรจ์ นอกจากนี้ ยังมีแผลแตกที่คาง และหน้าผาก เลือดไหลนองพื้น ใกล้กันพบท่อนเหล็กด้านปลายมีลักษณะเป็นปากฉลาม และเก้าอี้กลมขาเก้าอี้ทำด้วยโลหะ สภาพหักบิดเบี้ยว คาดว่าคนร้ายใช้ขาเก้าอี้เป็นอาวุธก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวนายชาน อายุ 41 ปี ชาวเมียนมา ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุไว้ได้ โดยนายชานอยู่ในอาการมึนเมาสุรา
สอบสวน นายชาน เบื้องต้นได้ความว่า ตนเองมึนเมาสุรา ได้มาเจอกับผู้ตายในบ้าน ซึ่งตัวผู้ตายก็มีอาการมึนเมา เมื่อเจอกันเกิดมีปากเสียงกระทบกระทั่งเรื่องส่วนตัว ตนจึงฉวยเอาเก้าอี้ในบ้านฟาดจนขาเก้าอี้หัก จากนั้นจึงใช้ขาเก้าอี้ซึ่งเป็นโลหะแทงไปที่คอของผู้ตาย
จากการสอบถามทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นที่อยู่ของชาวพม่าและชาวไทยใหญ่ ที่นายจ้างเช่าไว้สำหรับให้คนงานทำงานเจียระไนพลอย และอยู่อาศัย โดยผู้เสียชีวิต คนในซอยเรียกกันติดปากว่า "นายยี่" ชาวเมียนมา อาศัยอยู่ที่ในซอยแห่งนี้มานานนับ 10 ปีแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นคนงานเจียระไนพลอยเช่นกัน ก่อนเกิดเหตุผู้ตายและผู้ก่อเหตุต่างมึนเมาสุรา กระทั่งมีปากเสียงกันในช่วงเวลา 20.00 น. ของวันที่ 11 มิ.ย. ก่อนที่จะมาพบศพเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
สอบถาม นายสุทธิพจน์ ชาวบ้านในซอย เล่าว่า คนตายกับคนก่อเหตุทำงานและพักอยู่ที่เดียวกัน เมื่อคืนประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ ตนเห็นผู้ก่อเหตุ เดินกลับเข้าบ้านสภาพเมามาก แทบจะเดินไม่ได้ ตนจึงพยุงไปส่งถึงแยก หลังจากนั้นคนตายก็เดินกลับเข้ามาตามหลัง ทั้ง 2 คนไม่ได้ไปกินเหล้าด้วยกัน โดยคนตายยังพอมีสติ ทักคุยกับตนอยู่เลย แล้วก็เดินเข้าบ้านไป พอประมาณเที่ยงคืนคนตายก็เดินออกไปข้างนอกอีก แล้วกลับเข้าไปที่บ้าน คนข้างบ้านก็บอกว่าได้ยินเสียงทะเลาะกันเสียงดัง ก็มารู้อีกทีว่ามีคนตายตอนเช้าประมาณ 6.30 น. ตอนที่พบศพคนตายนอนอยู่หน้าประตู ส่วนคนก่อเหตุนอนอยู่ตรงบันได ตอนเจ้าหน้าที่มาถึง คนก่อเหตุยังนอนหลับอยู่เลย
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไม่พบเอกสารติดตัวของผู้ตาย จึงมอบหมายให้อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูนำศพผู้เสียชีวิตส่งไปผ่าชันสูตรศพ ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลจุฬาฯ และรอสอบปากคำผู้ต้องหาอย่างละเอียดอีกครั้ง เนื่องจากตัวผู้ก่อเหตุยังมีอาการมึนเมา ก่อนดำเนินคดีในข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตายต่อไป